แม้หลายแห่งจะได้ข้อสรุปว่ายอดดาวยิงแห่งทีมชาติฝรั่งเศส อองตวน กรีซมันน์ จะย้ายไปซบสโมสรบาร์เซโลน่าก็ตาม ทว่าข่าวล่าสุดที่โผล่ออกมานั้นดูเหมือนว่าจะมีการพลิกล็อคเกิดขึ้นมาก็เป็นได้

  วันที่ 24 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น สื่ออังกฤษหลายแห่งอาทิ The Independent ลงข่าวว่า "ความเป็นไปได้ที่สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะคว้าตัวอองตวน กรีซมันน์ พุ่งทะยานสูงขึ้น" เป็นเช่นนั้น

  อดีตนักเตะสโมสรเรอัลโซเซียดาดที่ค้าแข้งอยู่กับแอตเลติโกมาดริดมาตลอด 5 ปีและประกาศอำลาทีมในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น มีข่าวลือมาอย่างหนาหูว่ายอดดาวยิงผู้นี้จะย้ายไปบาร์ซ่าตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนฤดูกาลก่อนแล้ว

  บาร์ซ่ายังรอราคาค่าฉีกสัญญาของกรีซมันน์ในวันที่ 1 มิถุนายนจากเดิมที่ 200 ล้านยูโรให้เหลือเพียง 120 ล้านยูโรแต่เพียงเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีการเจรจาต่อรองเพื่อเตรียมเทขายฟิลิปเป้ คูตินโญ่และซามูเอล อุมตีตี้ออกจากทีมไปอีกด้วย

  กระนั้นแหล่งข่าวภายในบาร์ซ่าระบุว่า มีหลายเสียงในสโมสรไม่เป็นปัจจัยบวกในการคว้าตัวกรีซมันน์ จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นอย่าง Sport ได้ระบุว่า "ในล็อคเกอร์รูมของบาร์ซ่าเซย์โนในการคว้าตัวกรีซมันน์!" พร้อมกับอธิบายว่าเหล่านักเตะคิดว่ากรีซมันน์ไม่เหมาะสมในแผนการเสริมทัพทีมของตนเอง
 

  ก็ไม่ทราบได้เหมือนกันว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทราบเรื่องความลังเลจากภายในของบาร์ซ่าหรือไม่ แต่ตอนนี้ทางแมนยูก็เริ่มเดินเรื่องใต้น้ำเพื่อจะทำการคว้าตัวกรีซมันน์เข้ามาร่วมทีมแล้ว

  จากการรายงานของ The Independent ระบุว่า ทางคนของสโมสรแมนยูได้เข้าถึงน้องชายของกรีซมันน์และคนในครอบครัวที่อยากให้กรีซมันน์ย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก เป็นแผนตีจากวงนอกก่อน

  ทางหนังสือพิมพ์ระบุว่าความเป็นไปได้ที่แมนยูจะคว้าตัวกรีซมันน์มาเข้าร่วมทีมนั้นไม่ได้มีน้อยเลย

  "แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและเรอัลมาดริดนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร ยูเวนตุสนั้นคงต้องตัดออกไปจากเรื่องไม่มีงบซื้อตัวที่มากเพียงพอ ในส่วนของ PSG นั้น ถ้าไม่ปล่อยเอ็มบาปเป้ออกไปล่ะก็คงไม่มีส่วนร่วมในศึกนี้กระมัง ณ จุดนี้ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น"

  สิ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งคือเรื่องค่าฉีกสัญญา ทางหนังสือพิมพ์ The Sun ระบุว่า ทางแมนยูตั้งใจจะนำกำไรที่ได้จากการขายโรเมลู ลูกากู ที่จะไปอินเตอร์มิลานนั้นมาใช้ตรงจุดนี้

  และแล้วหัวหอกวัย 28 แห่งทีมตราไก่ที่อยู่ในจุดสูงสุดของการค้าแข้งนั้นจะไปที่ไหนกันต่อแน่ จากนี้ห้ามพลาดสายตาเป็นอันขาดเลย

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest