ระบบเสียงข้างมากในการเสริมทัพ
ฝ่ายเสริมทัพนักเตะอาทิอาบีดาล(คนขวา)นั้นสามารถประสานงานร่วมกับเบื้องบนอาทิประธานบาร์โตเมว(คนกลาง)ได้อย่างราบรื่น
(C)Rafa HUERTA
แผนกเสริมทัพในเบื้องหน้าของบาร์ซ่านั้นมีความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่มากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
Pep Segura ที่อยู่ในจุดสูงสุดของอคาเดมีนั้น ในช่วงฤดูร้อนปี 2017 เขาก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นไปตำแหน่ง Football Director จากนั้นในหน้าร้อนปี 2018 ก็คว้าตัว Ramón Planes อดีตไดเรกเตอร์ของ Getafe และ Espanyol มาเป็น Sporting Director รวมไปถึง Eric Abidal ที่เป็นนักเตะเก่ามาเป็นผู้ช่วยในตำแหน่งนี้เพื่อประสานงานในการปั้นองค์กรขึ้นมา
แน่นอนว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจสุดท้ายในการซื้อตัวนักเตะนั้นคือประธานของสโมสร โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว แต่หาก 3 คนอย่างอดีตกุนซือและผู้บริหารอคาเดมีอย่างเซกูร่า พลาเนสผู้เป็นอดีตนักเตะที่เลื่อนชั้นมาเป็นผู้บริหาร รวมทั้งล่าสุดอย่างอาบีดาล อดีตนักเตะของสโมสรผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง หากทั้ง 3 คนประสานงานและแบ่งหน้าที่ในการทำงานกันได้ดีล่ะก็ ระบบการเสริมทัพและเสริมความแข็งแกร่งของนักเตะจะเป็นไปได้อย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ในเรื่องการคว้าตัวนักเตะนั้น ถึงบาร์ซ่าจะมีจุดยืนเหมือนกับเรอัลมาดริดที่ต่อให้อยู่เฉย ๆ ก็มีข้อมูลไหลมาเทมา แต่การจะเฟ้นหาตัวนักเตะที่เข้ากับสไตล์ของบาร์ซ่าที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้น ในการจะเลือกสรรนักเตะมาแต่ละคนจำเป็นต้องมือถึง
สำหรับในฤดูกาลหน้านั้น นอกจากจะรักษาสายสัมพันธ์กับอาแย็กซ์เป็นอย่างดีด้วยการคว้าตัวมิดฟิลด์ฟอร์มดีอย่างเฟรงกี้ เดอยองเข้ามาร่วมทีมแล้ว การเจรจาต่อรองเพื่อคว้าตัวเซนเตอร์แบ็คตัวจี๊ดอย่างมาธีส ดีลิกต์ก็น่าจะไปได้สวยมากขึ้น แต่กระนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเขา
Pep Segura ที่อยู่ในจุดสูงสุดของอคาเดมีนั้น ในช่วงฤดูร้อนปี 2017 เขาก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นไปตำแหน่ง Football Director จากนั้นในหน้าร้อนปี 2018 ก็คว้าตัว Ramón Planes อดีตไดเรกเตอร์ของ Getafe และ Espanyol มาเป็น Sporting Director รวมไปถึง Eric Abidal ที่เป็นนักเตะเก่ามาเป็นผู้ช่วยในตำแหน่งนี้เพื่อประสานงานในการปั้นองค์กรขึ้นมา
แน่นอนว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจสุดท้ายในการซื้อตัวนักเตะนั้นคือประธานของสโมสร โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว แต่หาก 3 คนอย่างอดีตกุนซือและผู้บริหารอคาเดมีอย่างเซกูร่า พลาเนสผู้เป็นอดีตนักเตะที่เลื่อนชั้นมาเป็นผู้บริหาร รวมทั้งล่าสุดอย่างอาบีดาล อดีตนักเตะของสโมสรผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง หากทั้ง 3 คนประสานงานและแบ่งหน้าที่ในการทำงานกันได้ดีล่ะก็ ระบบการเสริมทัพและเสริมความแข็งแกร่งของนักเตะจะเป็นไปได้อย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ในเรื่องการคว้าตัวนักเตะนั้น ถึงบาร์ซ่าจะมีจุดยืนเหมือนกับเรอัลมาดริดที่ต่อให้อยู่เฉย ๆ ก็มีข้อมูลไหลมาเทมา แต่การจะเฟ้นหาตัวนักเตะที่เข้ากับสไตล์ของบาร์ซ่าที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั้น ในการจะเลือกสรรนักเตะมาแต่ละคนจำเป็นต้องมือถึง
สำหรับในฤดูกาลหน้านั้น นอกจากจะรักษาสายสัมพันธ์กับอาแย็กซ์เป็นอย่างดีด้วยการคว้าตัวมิดฟิลด์ฟอร์มดีอย่างเฟรงกี้ เดอยองเข้ามาร่วมทีมแล้ว การเจรจาต่อรองเพื่อคว้าตัวเซนเตอร์แบ็คตัวจี๊ดอย่างมาธีส ดีลิกต์ก็น่าจะไปได้สวยมากขึ้น แต่กระนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเขา
ฝ่ายเสริมทัพนักเตะนั้น นอกจากจะ "ซื้อ" แล้วยังมีหน้าที่สำคัญในการ "ขาย" อีกด้วย เพราะฉะนั้นในช่วงฤดูร้อนนี้เพื่อบาร์ซ่าจะแก้ปัญหากฎ FFP จำเป็นต้องหากำไรให้ได้ 25 ล้านยูโรภายในวันที่ 30 มิถุนายน ฉะนั้นนี่จึงเป็นหนึ่งในบททดสอบทีมบริหารชุดนี้อีกหนึ่งเรื่องเลยก็ว่าได้
ลิสต์เตรียมขายในฤดูกาลนี้ก็มีนักเตะอย่าง Jasper Cillessen ที่เป็นผู้รักษาประตูมือสอง Samuel Umtiti, Malcom, Denis Suárez(ปัจจุบันนี้ย้ายเล่นยืมตัวอยู่กับอาร์เซนอล) ต่อให้ตัดอุมตีตี้ที่มีปัญหาเรื่องหัวเข่าไปล่ะก็ นับว่าน่าสนใจเหลือเกินว่าทีมจะขายนักเตะเหล่านี้ได้ด้วยราคาเท่าไรกัน
แม้กระทั่งเหล่านักเตะที่ดึงขึ้นมาจากอคาเดมีโดยไม่ต้องใช้เงินทองอะไรแล้วทำสัญญามืออาชีพนั้น บางทีการหาเงินจากนักเตะเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องจำเป็นมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ขณะนี้ทีมไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไรนักในด้านการบริหาร กระนั้นก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าเมสซี่คือตัวตนผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอิทธิพลระดับมหาศาลสำหรับสโมสรเป็นอย่างยิ่ง จริงอยู่ที่เมสซี่ไม่ได้เหมือนกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ในสมัยอยู่มาดริดที่เรียกร้องขออะไรหลาย ๆ อย่างกับทางสโมสร แต่กระนั้นชัดเจนเหลือเกินว่าเมสซี่เป็นคนที่มีสิทธิ์เด็ดขาด(right of veto) เพราะฉะนั้นนั่นจึงเป็นอีกมุมหนึ่งของฝ่ายเสริมทัพนักเตะที่จะต้องเตรียมการอีกด้วย
[คะแนนฝ่ายเสริมทัพและทีมบริหารของบาร์เซโลน่า]
●Scouting:9 แต้ม
●Barganing Power:9 แต้ม
●Team Management:8 แต้ม
(คะแนนเต็ม 10)
ข่าวโดย:Gianluca Di Marzio
แปลโดย:คาตาโนะ มิจิโอะ
※ข่าวจาก World Soccer Digest ฉบับวันที่ 16 พฤษภาคม 2019
【ประวัติของผู้เขียน】
Gianluca Di Marzio/เกิดวันที่ 28 มีนาคม 1974 ที่ชานเมืองนาโปลี
เริ่มอาชีพในฐานะนักข่าวโทรทัศน์ท้องถิ่นในปี 94 สมัยที่ยังศึกษาอยู่ University of Padova จนกระทั่งปี 2004 ย้ายมาสังกัด "SKY ITALIA" หลังจากนั้นก็ใช้เส้นสายและ Connection ที่มีจากพ่อ Gianni ที่เป็นอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลและเป็นคอมเมนเตเตอร์เกี่ยวกับฟุตบอลในปัจจุบันนั้นทำสื่อเฉพาะเกี่ยวกับ "ข่าวคราวการซื้อขายนักเตะ" ขึ้นมา
เขาคือมือหนึ่งด้านข่าวการซื้อขายนักเตะในอิตาลี และผู้ที่เปิดโปงเรื่องที่เป๊ป กวาดิโอลาร์จะย้ายไปซบบาเยิร์นมิวนิคในช่วงมกราคมของปี 2013 นั้นก็คือเขานี่เอง
ลิสต์เตรียมขายในฤดูกาลนี้ก็มีนักเตะอย่าง Jasper Cillessen ที่เป็นผู้รักษาประตูมือสอง Samuel Umtiti, Malcom, Denis Suárez(ปัจจุบันนี้ย้ายเล่นยืมตัวอยู่กับอาร์เซนอล) ต่อให้ตัดอุมตีตี้ที่มีปัญหาเรื่องหัวเข่าไปล่ะก็ นับว่าน่าสนใจเหลือเกินว่าทีมจะขายนักเตะเหล่านี้ได้ด้วยราคาเท่าไรกัน
แม้กระทั่งเหล่านักเตะที่ดึงขึ้นมาจากอคาเดมีโดยไม่ต้องใช้เงินทองอะไรแล้วทำสัญญามืออาชีพนั้น บางทีการหาเงินจากนักเตะเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องจำเป็นมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ขณะนี้ทีมไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไรนักในด้านการบริหาร กระนั้นก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าเมสซี่คือตัวตนผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอิทธิพลระดับมหาศาลสำหรับสโมสรเป็นอย่างยิ่ง จริงอยู่ที่เมสซี่ไม่ได้เหมือนกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ในสมัยอยู่มาดริดที่เรียกร้องขออะไรหลาย ๆ อย่างกับทางสโมสร แต่กระนั้นชัดเจนเหลือเกินว่าเมสซี่เป็นคนที่มีสิทธิ์เด็ดขาด(right of veto) เพราะฉะนั้นนั่นจึงเป็นอีกมุมหนึ่งของฝ่ายเสริมทัพนักเตะที่จะต้องเตรียมการอีกด้วย
[คะแนนฝ่ายเสริมทัพและทีมบริหารของบาร์เซโลน่า]
●Scouting:9 แต้ม
●Barganing Power:9 แต้ม
●Team Management:8 แต้ม
(คะแนนเต็ม 10)
ข่าวโดย:Gianluca Di Marzio
แปลโดย:คาตาโนะ มิจิโอะ
※ข่าวจาก World Soccer Digest ฉบับวันที่ 16 พฤษภาคม 2019
【ประวัติของผู้เขียน】
Gianluca Di Marzio/เกิดวันที่ 28 มีนาคม 1974 ที่ชานเมืองนาโปลี
เริ่มอาชีพในฐานะนักข่าวโทรทัศน์ท้องถิ่นในปี 94 สมัยที่ยังศึกษาอยู่ University of Padova จนกระทั่งปี 2004 ย้ายมาสังกัด "SKY ITALIA" หลังจากนั้นก็ใช้เส้นสายและ Connection ที่มีจากพ่อ Gianni ที่เป็นอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลและเป็นคอมเมนเตเตอร์เกี่ยวกับฟุตบอลในปัจจุบันนั้นทำสื่อเฉพาะเกี่ยวกับ "ข่าวคราวการซื้อขายนักเตะ" ขึ้นมา
เขาคือมือหนึ่งด้านข่าวการซื้อขายนักเตะในอิตาลี และผู้ที่เปิดโปงเรื่องที่เป๊ป กวาดิโอลาร์จะย้ายไปซบบาเยิร์นมิวนิคในช่วงมกราคมของปี 2013 นั้นก็คือเขานี่เอง