ไม่มีใครครหาในความสามารถของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว

  การแข่งขันรอบรองชนะเลิศศึก UEFA Champions League ในวันที่ 30 เมษายนเลก 1 อาแย็กซ์บุกไปเยือนสโมสรท็อตแนมฮ็อตสเปอรส์แล้วเอาชนะได้ 1-0 นับเป็นชัยชนะก้าวใหญ่ที่อาจเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีมไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้ใน 23 ปี

  สโมสรแห่งเนเธอร์แลนด์ที่เอาชนะตัวเก็งแชมป์อย่างทั้งเรอัลมาดริดและยูเวนตุสได้แล้วนั้น พวกเขาบุกไปเยือนสนามใหม่ของสเปอรส์ที่มีผู้ชม 60,243 ที่นั่งแล้วแสดงฟอร์มการเล่นฟุตบอลเกมรุกได้ออกมาดียิ่งกว่าเดิม ประตูแรกและประตูเดียวในเกมนี้เกิดนาที 15 จากการยิงประตูของโดนี่ ฟานเดอบีค ซึ่งทำให้ทีมอาแย็กซ์สร้างความได้เรปียบในเลกแรกก่อนด้วยการเก็บ Away Goal ได้
 

  โดยหนังสือพิมพ์เนเธอร์แลนด์ AD ได้กล่าวชมเป็นอย่างยิ่ง "อาแย็กซ์เข้าใกล้สู่รอบชิงชนะเลิศในทุกที นิทานปรัมปรายังคงดำเนินต่อไป" เป็นการพาดหัวข่าวเช่นนั้นพร้อมกับลงรายละเอียดว่า

  "ความกดดัน? ความตื่นเต้น? ทั้งสองคำศัพท์นั้นไม่มีในพจนานุกรมของทีมนี้เลย พวกเขาแสดงพละกำลังออกมาได้อย่างเป็นที่น่าจับจ้อง แม้จะอยู่ท่ามกลางถิ่นศัตรูที่มีผู้ชมกว่าหกหมื่นคน แต่ก่อนนกหวีดเป่าการแข่งขันจะเริ่มขึ้นก็สังเกตเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของ Dušan Tadić และ Hakim Ziyech

  สำหรับพวกเขานั้น ไม่ว่าจะทีมไหนในสนามอะไร พวกเขาก็จะยึดมั่นในฟุตบอลของตัวเองต่อไป ในนัดนี้ฟานเดอบีคคุมเกมไว้เด่นมาก สเปอรส์ดู "ผงะ" เหล่านักรบแห่งอาแย็กซ์ไม่สะทกสะท้านต่อเสียงเชียร์แสนกระหึ่มของแฟนเจ้าบ้านแต่อย่างใด

  การแข่งขันจะหวนกลับมาอีกครั้งในวันพุธที่ 8 พฤษภาคมที่สนาม Johan Cruijff ArenA ก็ต้องมาดูกันว่าอาแย็กซ์จะสามารถคว้าตั๋วไปสู่นัดชิงชนะเลิศตามที่คาดหวังได้หรือไม่"

  แต่ในช่วงท้ายก็ยังระบุว่า "หากดาวิด เนเรส ไม่ถูกเสาประตูเกลียดในนาที 78 ล่ะก็ ป่านนี้ทีมคงชนะ 2-0 แล้วอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมไปแล้ว..." 

  ก็ต้องมาดูกันว่าโอกาสทองดังกล่าวที่พลาดไปนั้นจะส่งผลอย่างไรบ้าง การแข่งขันเลก 2 แห่งโชคชะตาในวันที่ 8 นี้พวกเราจะได้รู้กัน

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest