ตอร์เรส "จำนวนครั้งในการเปิดลูกเพิ่มขึ้น นักเตะที่อยู่หน้าประตูก็มีมากขึ้น แต่ว่า..."
เฟอร์นันโด ตอร์เรส แสดงอาการผิดหวังจากการที่ทีมพ่ายโชนัน ความเศร้าแสดงออกทางสีหน้าเลย
(C) J.LEAGUE PHOTOS
เมื่อเสียงนกหวีดจบการแข่งขันดังขึ้น เสียงโห่ก็ดังระงมทั่วสนาม แม้กระทั่งกองเชียร์โทสุที่ขึ้นชื่อเรื่องมีมารยาทดีไม่โห่ร้องนั้น เมื่อการแข่งขันวันนี้จบลงกลับมีเสียงโห่เกิดขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างดีว่าสภาพทีมที่เล่นต่อหน้ากองเชียร์เจ้าถิ่นในบ้านตัวเองนั้นย่ำแย่ขนาดไหน ประตูสุดท้ายที่โทสุทำได้คือนัดที่ 4 ของฤดูกาลที่ไอแซค เควนก้าทำได้ และนั่นคือประตูเดียวภายในฤดูกาลนี้เท่านั้น นั่นจึงหมายความว่าการแข่งขัน 9 นัดที่มีมาแต่ทำได้เพียง 1 ประตูนับเป็นสถิติที่แย่ที่สุด เป็นรองแค่โทคุชิมะในปี 2014 เท่านั้น
การแข่งขันกับโชนันในนัดนี้มีกองหน้าอย่างเฟอร์นันโด ตอร์เรสและคานะซากิ มู อยู่กันพร้อมหน้า แต่ก็ขาด โจดองกวอนและอันยองวูผู้ทำประตูและแอสซิสต์ในถ้วยเลอะวันกับสโมสรเซนไดไป กระนั้นการทำเกมรุกริมเส้นในเกมนี้ก็ยังทำได้ผล แต่สิ่งที่ยังขาดแคลนไปคือความแม่นยำในการเปิดลูก จำนวนผู้เล่นที่อยู่หน้าประตูยังไม่แพ็คกันอย่างมากเพียงพอ ท้ายที่สุดคือไม่สามารถทำประตูได้ แม้ครึ่งหลังจะส่งเฟอร์นันโด ตอร์เรสและวิกเตอร์ อิบาร์โบลงแต่กระนั้นเกมรุกก็ยังคงไร้ชีวิตชีวา ท้ายที่่สุดทีมก็แพ้อย่างหมดรูปด้วยผลการแข่งขัน 0-2
ผู้รักษาประตูของโชนันอย่างอากิโมโตะ โยตะระบุว่า "ทีมรู้อย่างชัดเจนว่าต้องเล่นเกมรับ เลยดีใจมากจริง ๆ ที่นัดนี้สามารถเก็บคลีนชีทพร้อมชัยชนะได้" ตามที่ระบุไปว่าสไตล์การทำเกมของโทสุนั้นคือการโยนลูกจากด้านนอกเข้าไปตรงกลาง นอกจากนั้นการเข้าไปทำพื้นที่ตรงหน้าประตูนั้นก็เป็นการขึ้นแบบทื่อ ๆ หากไม่มีการส่งบอลเลียดพื้นก็จะไม่มีการเข้าไปเคลื่อนไหวเสริม แน่นอนว่าการเลี้ยงกระชากเข้าไปตรงกลางหรือการจบสกอร์จากนอกกรอบเพื่อทำให้แผนการรุกริมเส้นได้ผลนั้นก็ไม่มีทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นในเมื่อมีการโยนลูกเข้าไปตรงกลางอย่างเดียวเท่านั้น แค่คอยตั้งสมาธิรับมือลูกโยนอย่างเดียวก็มากเพียงพอแล้ว
หลังจบการแข่งขันตอร์เรสระบุว่า "จำนวนครั้งในการเปิดลูกเพิ่มขึ้น นักเตะที่อยู่หน้าประตูก็มีมากขึ้นแต่ว่าไม่สามารถจบสกอร์ได้ เป็นข้อเท็จจริงเลยว่าไม่มีการยิงทำประตูที่หวังผลได้ สิ่งที่ควรแก้ไขคือคำนึงถึงความสามารถของนักเตะแล้วก็คิดว่าควรจะใช้การเล่นสไตล์แบบไหนถึงจะดีที่สุด" ได้แต่ก้มหน้ารับสภาพ
แต่ถ้อยคำของฮาราคาวะ ริกินั้น เป็นการบ่งชี้เลยว่าสภาพในทีมอยู่ในจุดเลวร้ายถึงขนาดไหน
การแข่งขันกับโชนันในนัดนี้มีกองหน้าอย่างเฟอร์นันโด ตอร์เรสและคานะซากิ มู อยู่กันพร้อมหน้า แต่ก็ขาด โจดองกวอนและอันยองวูผู้ทำประตูและแอสซิสต์ในถ้วยเลอะวันกับสโมสรเซนไดไป กระนั้นการทำเกมรุกริมเส้นในเกมนี้ก็ยังทำได้ผล แต่สิ่งที่ยังขาดแคลนไปคือความแม่นยำในการเปิดลูก จำนวนผู้เล่นที่อยู่หน้าประตูยังไม่แพ็คกันอย่างมากเพียงพอ ท้ายที่สุดคือไม่สามารถทำประตูได้ แม้ครึ่งหลังจะส่งเฟอร์นันโด ตอร์เรสและวิกเตอร์ อิบาร์โบลงแต่กระนั้นเกมรุกก็ยังคงไร้ชีวิตชีวา ท้ายที่่สุดทีมก็แพ้อย่างหมดรูปด้วยผลการแข่งขัน 0-2
ผู้รักษาประตูของโชนันอย่างอากิโมโตะ โยตะระบุว่า "ทีมรู้อย่างชัดเจนว่าต้องเล่นเกมรับ เลยดีใจมากจริง ๆ ที่นัดนี้สามารถเก็บคลีนชีทพร้อมชัยชนะได้" ตามที่ระบุไปว่าสไตล์การทำเกมของโทสุนั้นคือการโยนลูกจากด้านนอกเข้าไปตรงกลาง นอกจากนั้นการเข้าไปทำพื้นที่ตรงหน้าประตูนั้นก็เป็นการขึ้นแบบทื่อ ๆ หากไม่มีการส่งบอลเลียดพื้นก็จะไม่มีการเข้าไปเคลื่อนไหวเสริม แน่นอนว่าการเลี้ยงกระชากเข้าไปตรงกลางหรือการจบสกอร์จากนอกกรอบเพื่อทำให้แผนการรุกริมเส้นได้ผลนั้นก็ไม่มีทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นในเมื่อมีการโยนลูกเข้าไปตรงกลางอย่างเดียวเท่านั้น แค่คอยตั้งสมาธิรับมือลูกโยนอย่างเดียวก็มากเพียงพอแล้ว
หลังจบการแข่งขันตอร์เรสระบุว่า "จำนวนครั้งในการเปิดลูกเพิ่มขึ้น นักเตะที่อยู่หน้าประตูก็มีมากขึ้นแต่ว่าไม่สามารถจบสกอร์ได้ เป็นข้อเท็จจริงเลยว่าไม่มีการยิงทำประตูที่หวังผลได้ สิ่งที่ควรแก้ไขคือคำนึงถึงความสามารถของนักเตะแล้วก็คิดว่าควรจะใช้การเล่นสไตล์แบบไหนถึงจะดีที่สุด" ได้แต่ก้มหน้ารับสภาพ
แต่ถ้อยคำของฮาราคาวะ ริกินั้น เป็นการบ่งชี้เลยว่าสภาพในทีมอยู่ในจุดเลวร้ายถึงขนาดไหน
"พวกเราทุกคนไม่ได้วาดภาพแบบเดียวกัน ทุกคนเล่นอย่างกระจัดกระจาย ใช้เซนส์ของตัวเองในการเล่นเท่านั้น ในยามที่พวกเราไม่สามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้ สิ่งที่ต้องเอาออกมาให้ได้ก็คือความเป็นทีม แต่ผมคิดว่ามันก็ยังคงน้อยเกินไปครับ"
กองเชียร์ก็คงรู้สึกว่าทีมขาดความสร้างสรรค์ในเกมรุกมากเกินไปจนถึงต้องโห่ร้องออกมาแบบนี้ ซึ่งกุนซืออย่างลูอิส คาราเรสก็ให้สัมภาษณ์ว่า "พวกเราจะมามัวแต่ก้มหน้า เบือนหน้าหนีเหล่ากองเชียร์ที่คอยร้องเพลงให้กำลังใจแบบนี้ไม่ได้ พวกเราจำเป็นต้องมองไปข้างหน้าให้ชัดเจนยิ่งกว่านี้" แม้จะเป็นการพูดจาปลอบใจ แต่ก็ยังไม่มีการพูดถึงอะไรเกี่ยวกับมาตรการในการแก้ไขปัญหาเกมรุกฝืดเคืองของทีมได้อยู่ดี แม้ทีมจะมีนักเตะเกมรุกตัวฉกาจผู้มากประสบการณ์อย่างตอร์เรส คานะซากิและอิบาร์โบ้ก็ตาม แต่สภาพเน่าผุพังของเหล่านักเตะนั้นท่าทางจะยังคงดำเนินต่อไป
ข่าวโดย อารากิ ฮิเดกิ
กองเชียร์ก็คงรู้สึกว่าทีมขาดความสร้างสรรค์ในเกมรุกมากเกินไปจนถึงต้องโห่ร้องออกมาแบบนี้ ซึ่งกุนซืออย่างลูอิส คาราเรสก็ให้สัมภาษณ์ว่า "พวกเราจะมามัวแต่ก้มหน้า เบือนหน้าหนีเหล่ากองเชียร์ที่คอยร้องเพลงให้กำลังใจแบบนี้ไม่ได้ พวกเราจำเป็นต้องมองไปข้างหน้าให้ชัดเจนยิ่งกว่านี้" แม้จะเป็นการพูดจาปลอบใจ แต่ก็ยังไม่มีการพูดถึงอะไรเกี่ยวกับมาตรการในการแก้ไขปัญหาเกมรุกฝืดเคืองของทีมได้อยู่ดี แม้ทีมจะมีนักเตะเกมรุกตัวฉกาจผู้มากประสบการณ์อย่างตอร์เรส คานะซากิและอิบาร์โบ้ก็ตาม แต่สภาพเน่าผุพังของเหล่านักเตะนั้นท่าทางจะยังคงดำเนินต่อไป
ข่าวโดย อารากิ ฮิเดกิ