"ดีกรีเกมรับและเกมรุกสูงมาก" อิเนียสต้ายอมรับคู่ต่อสู้อย่างคาวาซากิ ทีมจะแสดงการเติบโตได้หรือไม่
อิเนียสต้าผู้ให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าว
ภาพโดย: ชิราอิ คุนิฮิโกะ
หลังจากที่มีการเปลี่ยนตัวกุนซือนั้นจึงทำให้การให้สัมภาษณ์ของกุนซือร่วมกันกับกัปตันทีมคนใหม่เป็นไปอย่างล่าช้า ล่าสุดวันที่ 25 เมษายน อังเดรส อิเนียสต้าร่วมให้สัมภาษณ์ที่คลับเฮาส์ของสนาม Level5 Stadium
คำถามแรกที่อิเนียสต้าตอบนั้นคือเรื่องตำแหน่งกัปตันตามที่สื่อหลายแห่งได้รายงานไปว่า "ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นหน้าเป็นตาให้กับสโมสร นักเตะ ทีมงานและแฟน ๆ ทุกคน ผมพร้อมรับหน้าที่ด้วยความรู้สึก 1000% ครับ" เจ้าตัวบ่งบอกถึงความทะเยอทะยาน
นอกจากนั้นก็ยังคอยตอบคำถามมากมาย โดยมีคำถามในเชิงลบและเสียดสีเช่นบรรยากาศในทีมเป็นแง่ลบหรือไม่ ซึ่งอิเนียสต้าก็ตอบมาดังนี้
"ไม่ถึงขั้นรู้สึกกังวลครับ แต่ปกติแล้วเวลามีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ก็จะมีความเห็นออกมาอย่างมากมาย แต่กุนซือคนใหม่นั้นเขาก็เคยคุมวิสเซลโกเบมาก่อนแล้ว จากนี้เขาก็จะมีส่วนร่วมกับทีมต่อไป โดยในช่วงหลายเดือนมานี้กุนซือคนใหม่เขาก็เติบโตขึ้นมากเลยครับ ถ้ายังเล่นต่อไปยิ่งทำให้ทีมสามารถยกระดับได้มากยิ่งขึ้นอย่างไม่ผิดแน่ โดยส่วนตัวแล้วผมก็คิดว่าระดับของทีมเติบโตขึ้นมากจริง ๆ ครับ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนั้นผมจึงคิดว่าไม่มีในแง่ลบครับ"
การตอบด้วยท่าทีสงบนิ่งนั้นทำให้เห็นแย้มเงาของความเป็นกัปตันออกมาได้ทันที นี่สิคือความสุขุมของผู้ใหญ่
แล้วสิ่งที่เจ้าตัวอิเนียสต้าระบุว่าเป็นการเติบโตนั้นมันคือสิ่งใดกันแน่ เมื่อนักข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นถามอิเนียสต้าไปเขาก็ตอบมาเช่นนี้
"ในวงการฟุตบอลนั้น แค่ของเพียง 1-2 อย่างไม่สามารถให้กำเนิดอะไรขึ้นมาได้ พวกเรายกระดับขึ้นในฐานะทีมโดยภาพรวมมาก่อน แต่ละคนก็จะมีแต่ละบทบาท นอกจากนั้นยังต้องมีความสามารถในการตัดสินใจว่าตัวเองในช่วงเวลานั้นจะทำอะไรอีกด้วย ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทั้งทีมตอนนี้เข้าใจกันหมดแล้วล่ะครับ"
คำถามแรกที่อิเนียสต้าตอบนั้นคือเรื่องตำแหน่งกัปตันตามที่สื่อหลายแห่งได้รายงานไปว่า "ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นหน้าเป็นตาให้กับสโมสร นักเตะ ทีมงานและแฟน ๆ ทุกคน ผมพร้อมรับหน้าที่ด้วยความรู้สึก 1000% ครับ" เจ้าตัวบ่งบอกถึงความทะเยอทะยาน
นอกจากนั้นก็ยังคอยตอบคำถามมากมาย โดยมีคำถามในเชิงลบและเสียดสีเช่นบรรยากาศในทีมเป็นแง่ลบหรือไม่ ซึ่งอิเนียสต้าก็ตอบมาดังนี้
"ไม่ถึงขั้นรู้สึกกังวลครับ แต่ปกติแล้วเวลามีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ก็จะมีความเห็นออกมาอย่างมากมาย แต่กุนซือคนใหม่นั้นเขาก็เคยคุมวิสเซลโกเบมาก่อนแล้ว จากนี้เขาก็จะมีส่วนร่วมกับทีมต่อไป โดยในช่วงหลายเดือนมานี้กุนซือคนใหม่เขาก็เติบโตขึ้นมากเลยครับ ถ้ายังเล่นต่อไปยิ่งทำให้ทีมสามารถยกระดับได้มากยิ่งขึ้นอย่างไม่ผิดแน่ โดยส่วนตัวแล้วผมก็คิดว่าระดับของทีมเติบโตขึ้นมากจริง ๆ ครับ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนั้นผมจึงคิดว่าไม่มีในแง่ลบครับ"
การตอบด้วยท่าทีสงบนิ่งนั้นทำให้เห็นแย้มเงาของความเป็นกัปตันออกมาได้ทันที นี่สิคือความสุขุมของผู้ใหญ่
แล้วสิ่งที่เจ้าตัวอิเนียสต้าระบุว่าเป็นการเติบโตนั้นมันคือสิ่งใดกันแน่ เมื่อนักข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นถามอิเนียสต้าไปเขาก็ตอบมาเช่นนี้
"ในวงการฟุตบอลนั้น แค่ของเพียง 1-2 อย่างไม่สามารถให้กำเนิดอะไรขึ้นมาได้ พวกเรายกระดับขึ้นในฐานะทีมโดยภาพรวมมาก่อน แต่ละคนก็จะมีแต่ละบทบาท นอกจากนั้นยังต้องมีความสามารถในการตัดสินใจว่าตัวเองในช่วงเวลานั้นจะทำอะไรอีกด้วย ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทั้งทีมตอนนี้เข้าใจกันหมดแล้วล่ะครับ"
ฟุตบอลนั้นมักจะถูกเปรียบเปรยว่าเป็น "การวาดภาพบนสนามแบบเดียวกัน" นับเป็นเรื่องที่เข้าใจกันว่า สมมติว่ามิดฟิลด์ตัวรับได้รับลูกมา มิดฟิลด์คนนั้นก็ต้องอ่านเจตนารมณ์การจ่ายลูกนั้นมาให้ได้ ว่าจะครองบอลเอาไว้เพื่อลากฝั่งตรงข้ามมาหา หรือจะส่งกลับไป หรือว่าจะส่งไปให้คนอื่นต่อ ผู้เล่นคนนั้นจำเป็นต้องตัดสินใจสถานการณ์แล้วเลือกเส้นทางในการเล่น บางทีสิ่งที่อิเนียสต้าพยายามจะสื่อออกมานั้นคือการให้เพื่อนร่วมทีมแต่ละคนมีภาพในหัวลักษณะเดียวกันก็เป็นได้
การจะพิสูจน์ความเติบโตให้เห็นนั้นก็ต้องเป็นศึกในวันที่ 28 เมษายนที่จะเจอกับ Kawasaki Frontale เพราะนี่คือการต้องต่อกรกับทีมแชมป์เจลีกที่อิเนียสต้ายอมรับว่า "ดีกรีในเกมรุกและเกมรับสูงส่ง" นั่นเอง
"ฟุตบอลนั้นผลลัพธ์คือทุกสิ่ง ถ้าสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีจะเป็นวัฎจักรให้ทีมไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น ผมคิดว่าแบบนั้นครับ"
แววตาของผู้เป็นกัปตันนั้น ช่างสดใส ชัดเจน ที่เพ่งมองอนาคตของโกเบจากนี้ไปเป็นเกมต่อเกมต่อไป
ข่าวโดย ชิราอิ คุนิฮิโกะ
การจะพิสูจน์ความเติบโตให้เห็นนั้นก็ต้องเป็นศึกในวันที่ 28 เมษายนที่จะเจอกับ Kawasaki Frontale เพราะนี่คือการต้องต่อกรกับทีมแชมป์เจลีกที่อิเนียสต้ายอมรับว่า "ดีกรีในเกมรุกและเกมรับสูงส่ง" นั่นเอง
"ฟุตบอลนั้นผลลัพธ์คือทุกสิ่ง ถ้าสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีจะเป็นวัฎจักรให้ทีมไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น ผมคิดว่าแบบนั้นครับ"
แววตาของผู้เป็นกัปตันนั้น ช่างสดใส ชัดเจน ที่เพ่งมองอนาคตของโกเบจากนี้ไปเป็นเกมต่อเกมต่อไป
ข่าวโดย ชิราอิ คุนิฮิโกะ