วันที่ 7 เมษายน การแข่งขัน FA Cup รอบรองชนะเลิศ สโมสรวัตฟอร์ดสู้กับ Wolves ในช่วงต่อเวลาพิเศษแล้วเอาชนะไปได้ 3-2 เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบ์ลีย์

  วัตฟอร์ดยังตามหลัง 2 แต้มจนถึงช่วงนาที 62 ทว่าในนาที 79 เจอราร์ด ดิวโลฟทำประตู 1 แต้มไล่ตีตื้นขึ้นมาได้ นอกจากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทรอย ดีนีย์ก็ถูกทำฟาวล์แล้วลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษเองเป็นผลให้การแข่งขันต้องเข้าสู่ช่วงทดเวลาพิเศษ เกมต้องยื้อกันต่อไป

  จากนั้นในนาที 104 ก็เป็นของดิวโลฟที่สังหารประตูให้ตุงตาข่ายอีกครั้ง เป็นการพลิกเอาชนะได้อย่างสุดดราม่าในค่ำคืนที่ผ่านมา

  จากการรายงานของทาง BBC ระบุว่า วัตฟอร์ดเข้ารอบ FA Cup ได้เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งก่อนนั้นคือปี 1984 นั่นหมายถึง 35 ปีแล้ว ส่วนสโมสรวัตฟอร์ดก็มีสถิติชนะครั้งสุดท้ายที่สนามเวมบ์ลีย์ในเดือนพฤษภาคมปี 1999 กับสโมสรโบลตัน นี่ก็ผ่านไปแล้ว 20 ปีเช่นกัน

  หลังการแข่งขันจบลง กุนซืออย่างฆาบี กราเซียได้ให้สัมภาษณ์ว่า "แม้ตลอดทางที่ผ่านมาจะเสียอะไรไปทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนี้พวกเราก็โชว์สภาพจิตใจที่แข็งแกร่งออกมาได้ ผมภูมิใจในตัวนักเตะทุกคน" เขากล่าวชื่นชมกองหน้าชาวสเปนผู้ทำ 2 ประตูในนัดนี้และเหล่านักเตะทุกคนที่แม้จะออกตามหลังก่อน 2 ลูกแต่ก็มีจิตใจเข้มแข็งไม่ยอมแพ้

  "ผมคิดว่าเจอราร์ดเขาคงไม่พึงพอใจกับการที่ตัวเอกหลุดตำแหน่งตัวจริง ด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นดังนั้นพอมันแสดงออกมาจึงกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มาก ผมรู้สึกดีใจเหลือเกิน แม้เขาไม่ได้เล่นตัวจริงแต่เขาก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าตัวเองมีความสำคัญมากขนาดไหน แต่ผมก็ไม่คาดคิดว่าจะต้องส่งเขาลงสนามไปหลังจากถูกนำก่อน 2 ลูกอยู่ดีครับ"

  หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัตฟอร์ดคว้าชัยในนัดนี้ได้คือการเลือกใช้ผู้รักษาประตู ในเกม FA Cup 5 นัดที่ผ่านมานั้นทางกุนซือเลือกใช้เอเรลโญ โกเมสผู้รักษาประตูมือ 2 ของทีมให้เฝ้าเสา โดยนายทวารวัย 38 ปีอดีตทีมชาติบราซิลนั้นได้ประกาศออกมาแล้วว่าเขาจะแขวนถุงมือเมื่อจบฤดูกาลนี้

  เพียงแต่ว่าคู่ต่อสู้ในนัดชิงชนะเลิศนั้นคือสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่ยังมีลุ้นคว้า 4 ถ้วยในฤดูกาล เพราะฉะนั้นหากกุนซือจะเลือกใช้เบน ฟอสเตอร์ที่เป็นมือหนึ่งนั้นก็คงไม่แปลกอะไร โดยในช่วงให้สัมภาษณ์นั้นทางกุนซืออย่างกราเซียยังปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องนี้

  ทว่าฟอสเตอร์ออกมาพูดเองเลยว่า "ผมขอปฏิเสธที่จะเล่น" เขาอยากให้สป็อตไลท์ฉายมายังตัวของโกเมสในช่วงนาทีสุดท้ายในอาชีพการค้าแข้งของเขาให้ได้

  "โกเมสคู่ควรที่จะลงแข่งอย่างไม่มีข้อสงสัยอะไรทั้งสิ้น เขาไม่เคยทำให้สโมสรนี้ผิดหวังและเขาจะไม่มีวันทำเช่นนั้น วันนี้เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเลย"

  ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่ากุนซือกราเซียจะรับคำพูดของฟอสเตอร์อย่างไร การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศศึก FA Cup ในวันที่ 18 พฤษภาคมที่สนามเวมบลีย์นั้นทุกสายตาต้องจับตามอง

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest