วันที่ 28 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น กอนซาโล่ อิกวาอิน ศูนย์หน้าประจำสโมสรเชลซีได้ให้สัมภาษณ์กับทาง FOX SPORTS ARGENTINA พร้อมกับประกาศอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการ

  ในการให้สัมภาษณ์เรื่องการอำลาทีมชาติของเขานั้นช่างเป็นอะไรที่ตลกร้ายเหลือเกิน

  ดาวยิงผู้ห่างเหินจากทีมชาติไปพักใหญ่นับตั้งแต่จบศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซียนั้น เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่า "วัฎจักรทีมชาติอาร์เจนติน่าของผมมันจบลงแล้ว" เขายังพูดถึงตัวเองที่ลงฟุตบอลโลกในปี 2014 ศึกโคปาอเมริกา 2015 และ 2016 ที่พาทีมถึงรอบชิงชนะเลิศทั้ง 3 ครั้งแต่ทำประตูไม่ได้

  "การตัดสินใจของผมแบบนี้คงมีคนบางส่วนที่มีความสุขล่ะมั้งครับ พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าผมจะเล่นให้ทีมชาติอีกแล้ว"

  "พวกเรานั้นอาจจะขาดอะไรไปบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ แต่พวกเราก็เข้าถึงรอบชิงทั้ง 3 ครั้ง ที่สำคัญหนึ่งในนั้นคือฟุตบอลโลกเลยนะ คุณเข้าใจบ้างหรือเปล่าว่าทั้งที่ไปได้ถึงขนาดนั้นแต่ก็ยังถูกมองว่า "ล้มเหลว" อยู่น่ะ ไม่มีใครชื่นชมเส้นทางที่ไต่เต้าไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศได้เลย"

  อิกวาอินพูดเปิดอกถึงคำวิจารณ์ที่ได้รับมาโดยตลอด ท้ายที่สุดเขาก็ประกาศอำลาทีมชาติไปในวัย 31 ปี นั่นจึงทำให้อดีตกองหน้าของทีมชาติอาร์เจนติน่าอย่างกาบริเอล บาติสตูต้ากล่าวถึงรุ่นน้องของเขาผู้ประกาศอำลาทีมชาติดังนี้

  ครั้งสุดท้ายที่อาร์เจนติน่าได้ถ้วยรายการใหญ่นั้นต้องย้อนไปศึกโคปาอเมริกาปี 1998 ที่เอกวาดอร์ ซึ่งหัวหอกของทีมในสมัยนั้นอย่างบาติสตูต้าได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อบ้านเกิด Tyc Sports ถึงการอำลาทีมชาติของอิกวาอินดังนี้

  "กอนซาโล่คือกองหน้าที่มีความสามารถ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คนทั้งโลกยอมรับยกเว้นอาร์เจนติน่า เขาไม่ได้รับความรักจากคนในประเทศนี้ ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน

  สมมติว่ามีนักเตะคนหนึ่งทำประตู 200 ลูก แต่ถ้านักเตะคนนั้นยิงประตูไม่เข้าในจังหวะที่ไม่ควรผิดพลาด คนก็จะจำแต่เรื่องนั้นอย่างเดียว ซึ่งอิกวาอินก็ตกอยู่ในที่นั่งแบบนั้น เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูได้เยอะมาก ยกเว้นเพียงแค่การแข่งขัน 3 นัดที่ห้ามแพ้เป็นอันขาด เพราะฉะนั้นผู้คนเลยจดจำความผิดพลาดของเขาอย่างเดียว ไม่จดจำการทำประตูกระจุยกระจายของเขาได้ ทั้งที่เขาเป็นกองหน้าผู้ทำประตูสูงสุดให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่าในช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ด้วยซ้ำ"

  ก็ไม่ทราบได้เหมือนกันว่าถ้อยคำจากรุ่นพี่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างบาติสตูต้านั้นจะก้องกังวาลในหัวใจของอิกวาอินได้แค่ไหนกัน

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest