ประธานผู้เดินทางมาญี่ปุ่นนั้นเปี่ยมไปด้วยแพชชั่น
มุโรยะที่โชว์ฟอร์มการเล่นในริมเส้นฝั่งขวาได้อย่างกระฉับกระเฉงในเกมที่เจอกับโคลัมเบีย
ภาพโดย: คาเนโกะ ทาคุยะ(Soccer Digest Photo Team)
สโมสรยักษ์ใหญ่ในตุรกีเล็งคว้านักเตะญี่ปุ่นเข้าเสริมทัพอย่างจริงจังอีกหนึ่งราย
วันที่ 24 ตามเวลาท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ Turkiyegazetesi ของตุรกีระบุว่า "เบซิคตัสสนใจจะคว้าตัวแบ็คขวาทีมชาติญี่ปุ่นมาร่วมทีมให้ได้"
คากาวะ ชินจินั้นเป็นนักเตะที่ยืมตัวมาจากสโมสรโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ สัญญาของเขาจะอยู่กับเบซิคตัสถึงแค่สิ้นเดือนมิถุนายนเท่านั้น ซึ่งจากการรายงานของทางหนังสือพิมพ์ระบุว่า แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่มีซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกมาเข้าทีมก็ตาม แต่นั่นก็ส่งผลให้ "ยอดขายเสื้อสโมสรเพิ่มขึ้น ยอดขายตั๋วเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจไปได้สวยจึงมีแผนที่เล็งจะซื้อตัวนักเตะญี่ปุ่นเข้ามาเสริมทัพเพิ่ม" อีกด้วย
ซึ่งเมื่อสองสัปดาห์ก่อนทางประธานสโมสรเบซิคตัสอย่างคุณฟิกค์เร็ต โอมาน ได้เดินทางมาที่ญี่ปุ่นและเข้าพบสมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นอีกด้วย "เราอยากจะคว้าตัวคากาวะมาเข้าร่วมทีมถาวรให้ได้" นอกจากจะระบุข้อความเช่นนั้นแล้วยังเผยความตั้งใจที่จะคว้าตัวนักเตะเพิ่มอีกราย
ซึ่งคนที่ทางประธานต้องการนั้นคือกองหลังทีมชาติญี่ปุ่นที่สังกัดสโมสร FC Tokyo อย่างมุโรยะ เซย์นั่นเอง
"สัญญาของมุโรยะจะหมดลงกับสโมสรในเดือนมกราคมปี 2020 แบ็คขวาทีมชาติญี่ปุ่นด้วยวัย 24 ปีนั้น เขามีคุณภาพและคุณสมบัติเพียบพร้อมที่ทางเบซิคตัสต้องการจะคว้าตัวมาให้ได้
การเดินทางมาญี่ปุ่นของประธานโอมานนั้น ในกรณีที่การคว้าตัวมุโรยะเกิดขึ้นจริงจะมีเรื่องของสปอนเซอร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้นทางสโมสรจึงแทบไม่ต้องจ่ายอะไร เท่ากับจะได้นักเตะน้ำดีมาใช้งานแทบจะฟรี ๆ เลย"
วันที่ 24 ตามเวลาท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ Turkiyegazetesi ของตุรกีระบุว่า "เบซิคตัสสนใจจะคว้าตัวแบ็คขวาทีมชาติญี่ปุ่นมาร่วมทีมให้ได้"
คากาวะ ชินจินั้นเป็นนักเตะที่ยืมตัวมาจากสโมสรโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ สัญญาของเขาจะอยู่กับเบซิคตัสถึงแค่สิ้นเดือนมิถุนายนเท่านั้น ซึ่งจากการรายงานของทางหนังสือพิมพ์ระบุว่า แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่มีซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกมาเข้าทีมก็ตาม แต่นั่นก็ส่งผลให้ "ยอดขายเสื้อสโมสรเพิ่มขึ้น ยอดขายตั๋วเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจไปได้สวยจึงมีแผนที่เล็งจะซื้อตัวนักเตะญี่ปุ่นเข้ามาเสริมทัพเพิ่ม" อีกด้วย
ซึ่งเมื่อสองสัปดาห์ก่อนทางประธานสโมสรเบซิคตัสอย่างคุณฟิกค์เร็ต โอมาน ได้เดินทางมาที่ญี่ปุ่นและเข้าพบสมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นอีกด้วย "เราอยากจะคว้าตัวคากาวะมาเข้าร่วมทีมถาวรให้ได้" นอกจากจะระบุข้อความเช่นนั้นแล้วยังเผยความตั้งใจที่จะคว้าตัวนักเตะเพิ่มอีกราย
ซึ่งคนที่ทางประธานต้องการนั้นคือกองหลังทีมชาติญี่ปุ่นที่สังกัดสโมสร FC Tokyo อย่างมุโรยะ เซย์นั่นเอง
"สัญญาของมุโรยะจะหมดลงกับสโมสรในเดือนมกราคมปี 2020 แบ็คขวาทีมชาติญี่ปุ่นด้วยวัย 24 ปีนั้น เขามีคุณภาพและคุณสมบัติเพียบพร้อมที่ทางเบซิคตัสต้องการจะคว้าตัวมาให้ได้
การเดินทางมาญี่ปุ่นของประธานโอมานนั้น ในกรณีที่การคว้าตัวมุโรยะเกิดขึ้นจริงจะมีเรื่องของสปอนเซอร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้นทางสโมสรจึงแทบไม่ต้องจ่ายอะไร เท่ากับจะได้นักเตะน้ำดีมาใช้งานแทบจะฟรี ๆ เลย"
นอกจากนั้นทางสื่อของตุรกีอย่าง SPORX ก็ยังลงรายละเอียดเรื่องดีลของมุโรยะเพิ่มเติมว่า
"ประธานโอมานได้รับเงินสปอนเซอร์มากจนสามารถซื้อตัวมุโรยะจาก FC Tokyo ด้วยงบ 1.5 ล้านยูโรได้เลย เพราะฉะนั้นจึงตั้งใจจะคว้ามาร่วมทีมให้ได้
อีกทั้งตัวของมุโรยะยังถาม "รุ่นพี่" ในทีมชาติญี่ปุ่นอย่างคากาวะ ชินจิ เกี่ยวกับเรื่องของสโมสรเบซิคตัสมาพอสมควร ซึ่งเจ้าตัวก็ให้ความสนใจไม่เบา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวของมุโรยะนั้นประทับใจในบรรยากาศที่สนาม Vodafone Park เป็นอย่างมาก โดยทางประธานจะเจรจาให้ได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤษภาคมนี้ แล้วก็เชิญมาเซ็นสัญญาที่เบซิคตัสในเดือนมิถุนายน"
"ยังมีอีกเหตุผลที่ทำไมเบซิคตัสถึงจะคว้าตัวมุโรยะมาเข้าร่วมทีมด้วย นั่นก็เพราะว่ากุนซือคนปัจจุบันอย่างเซโนล กิวเนสนั้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้เขาจะย้ายกลับไปคุมทีมชาติตุรกีเหมือนเดิม จึงทำให้เบซิคตัสจะคว้าตัวกุนซือชาวสเปนเข้ามาคุมทีม เพราะฉะนั้นแบ็คขวาคนใหม่นั้นจะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในอนาคต"
นอกจากนั้นยังมีข่าวลืออีกว่าทางประธานสนใจจะคว้าตัวคิโยทาเกะ ฮิโรชิ มิดฟิลด์แห่งสโมสร Cerezo Osaka มาเข้าร่วมทัพอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวลือกับนากาโทโมะ ยูโตะแห่งกาลาตาซาราย รวมทั้งอดีตศูนย์หน้าทีมชาติญี่ปุ่นที่ย้ายไปอยู่สโมสร Fenerbahçe อย่างโอกาซากิ ชินจิอีกเช่นกัน
การคว้าตัวคากาวะเข้ามาร่วมทีมของเบซิคตัสจนก่อให้เกิดกระแส "JAPAN FEVER" นั้นเป็นผลสำคัญที่ทำให้ทางเบซิคตัสคิดจะคว้าตัวนักเตะญี่ปุ่นเข้ามาร่วมทีมให้ได้มากยิ่งขึ้น ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าในช่วงฤดูร้อนนี้จะมีนักเตะคนไหนที่จะได้ย้ายไปค้าแข้งที่ตุรกีกันแน่
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest