"นึกว่าเป็นโจ๊ก" เจ้าตัวกล่าวด้วยความปลาบปลื้ม
ฮัดสัน-โอดอย ผู้โตวันโตคืนจนกลายเป็นกำลังสำคัญของเชลซี เขายิงประตู 3 นัดต่อเนื่องในยูโรป้า
(C)Getty Images
วันที่ 18 มีนาคม สมาพันธ์ฟุตบอลอังกฤษได้ประกาศชุดนักเตะทีมชาติที่จะลงสู้ศึก EURO2020 (วันที่ 22 กับเช็ก/วันที่ 25 กับมอนเตเนโกร) ซึ่งมีการเรียกตัวกองหน้าสโมสรเชลซีอย่างแคลลัม ฮัดสัน-โอดอยในครั้งนี้ด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีฟาเบียน เดลฟ์(แมนเชสเตอร์ซิตี้) และรูเบน ลอฟตัส-ชีก(เชลซี)
เจ้าตัวฮัดสัน-โอดอยที่เคยติดทีมชาติ U-21 มาก่อนนั้นรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกแบบนี้ โดยเจ้าตัวระบุว่า
"ผมนึกว่าเป็นโจ๊กด้วยซ้ำไปครับ ผมตกใจมากเลย ตอนที่ได้ยินว่าผมจะได้ไปจริง ๆ นั้นผมแทบไม่เชื่อเลยครับ ผมรู้สึกยินดีมาก ความฝันของผมกลายเป็นจริงแล้ว จากนี้ผมต้องพยายามหนักและสนุกในทุกวินาที แล้วก็พยายามอย่างเต็มที่ให้คุ้มค่ากับการที่ผมได้รับโอกาสครับ"
เจ้าตัวฮัดสัน-โอดอยที่เคยติดทีมชาติ U-21 มาก่อนนั้นรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกแบบนี้ โดยเจ้าตัวระบุว่า
"ผมนึกว่าเป็นโจ๊กด้วยซ้ำไปครับ ผมตกใจมากเลย ตอนที่ได้ยินว่าผมจะได้ไปจริง ๆ นั้นผมแทบไม่เชื่อเลยครับ ผมรู้สึกยินดีมาก ความฝันของผมกลายเป็นจริงแล้ว จากนี้ผมต้องพยายามหนักและสนุกในทุกวินาที แล้วก็พยายามอย่างเต็มที่ให้คุ้มค่ากับการที่ผมได้รับโอกาสครับ"
ฮัดสัน-โอดอยเกิดวันที่ 7 พฤศจิกายนปี 2000 ที่เมือง Wandswort ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน บิดาของเขาที่ชื่อว่าบิสมาร์คนั้นเคยเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ให้กับสโมสร Hearts of Oak ที่ประเทศกาน่า ส่วนพี่ชายของเขาที่อายุมากกว่า 12 ปีที่ชื่อว่าบลัดเรย์นั้น เขาเล่นอยู่ใน non-League ระดับ 6 (เซมิโปร) กับสโมสร Woking ในตำแหน่งกองหน้า
ตอนอายุ 7 ปี โอดอยเข้าสู่รั้วเยาวชนของเชลซี เขาเติบโตได้อย่างต่อเนื่องที่อคาเดมีของสโมสร เมื่ออายุ 16 ปีก็เข้าสู่ทีมชุด U-18 มีส่วนช่วยทีมในการสู้สึก FA Youth Cup ในฤดูกาล 2016-2017 จากนั้นก็ได้เล่นในทีมชุด U-23 จนกระทั่งล่าสุดในวันที่ 29 มกราคมปี 2018 ก็ได้เล่นทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในศึก FA Cup นัดที่ 4 ที่เจอกับสโมสรนิวคาสเซิล แล้วหลังจากนั้นในอีก 3 วันให้หลังก็ลงแข่งเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 17 กับสโมสรบอร์นมัธนับเป็นการเปิดตัวในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
ชื่อของเขาดังกระฉ่อนขึ้นมาในฟุตบอลโลกรุ่น U-17 ที่เขาได้ลงเล่นพร้อมกับฟิล โฟเดนและเจดอน ซานโช่จนพาทีมคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรก โดยตัวของโอดอยนั้นพาทีมพลิกเอาชนะทีมชาติสเปนได้ด้วยสกอร์ 5-2 ซึ่งโอดอยนั้นจ่ายแอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมสองลูก
ส่วนเพื่อนร่วมทีมชาติของเขาอย่างซานโช่นั้นถือเป็นนักเตะผู้เกิดปี 2000 ที่ติดทีมชาติในเดือนตุลาคมปีก่อน โดยปัจจุบันนี้ลงสนามแข่งขันไปทั้งหมด 3 นัดเป็นที่เรียบร้อย
ฮัดสัน-โอดอยผู้มีความเร็วระเบิดระเบ้อและมีการลากเลื้อยที่แสนมีเสน่ห์นั้น ฟอร์มของเขาเข้าตาสโมสรบาเยิร์นมิวนิกเป็นอย่างยิ่ง จากการรายงานของ BBC ระบุว่ามีข้อเสนอจากทางบาเยิร์นยื่นมา 4 ครั้งแล้ว โดยให้ราคาครั้งสุดท้ายที่ 35 ล้านปอนด์เลยด้วย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้นก็บ่งบอกได้ว่าเขาคือนักเตะที่มีศักยภาพถึงระดับไหน
ในฤดูกาลนี้โอดอยก็มีโอกาสเล่นในทีมชุดใหญ่เยอะขึ้น ลงพรีเมียร์ลีกมา 6 นัดทำได้ 0 ประตู ทว่าเกมในยูโรป้านั้นลง 8 นัดยิงไป 4 ลูกแล้ว ตัวตนของเขาเริ่มโดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ
ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าโอกาสที่จะลงสนามเล่นให้กับทีมชุดใหญ่นั้นจะมีจริงหรือไม่ หากเขาสามารถยิงประตูได้ก่อนซานโช่ล่ะก็ เขาก็จะกลายเป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่เกิดปี 2000 ที่ทำประตูให้กับทีมชาติได้ ชื่อของเขาจะต้องกลายเป็นหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
ตอนอายุ 7 ปี โอดอยเข้าสู่รั้วเยาวชนของเชลซี เขาเติบโตได้อย่างต่อเนื่องที่อคาเดมีของสโมสร เมื่ออายุ 16 ปีก็เข้าสู่ทีมชุด U-18 มีส่วนช่วยทีมในการสู้สึก FA Youth Cup ในฤดูกาล 2016-2017 จากนั้นก็ได้เล่นในทีมชุด U-23 จนกระทั่งล่าสุดในวันที่ 29 มกราคมปี 2018 ก็ได้เล่นทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในศึก FA Cup นัดที่ 4 ที่เจอกับสโมสรนิวคาสเซิล แล้วหลังจากนั้นในอีก 3 วันให้หลังก็ลงแข่งเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 17 กับสโมสรบอร์นมัธนับเป็นการเปิดตัวในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
ชื่อของเขาดังกระฉ่อนขึ้นมาในฟุตบอลโลกรุ่น U-17 ที่เขาได้ลงเล่นพร้อมกับฟิล โฟเดนและเจดอน ซานโช่จนพาทีมคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรก โดยตัวของโอดอยนั้นพาทีมพลิกเอาชนะทีมชาติสเปนได้ด้วยสกอร์ 5-2 ซึ่งโอดอยนั้นจ่ายแอสซิสต์ให้กับเพื่อนร่วมทีมสองลูก
ส่วนเพื่อนร่วมทีมชาติของเขาอย่างซานโช่นั้นถือเป็นนักเตะผู้เกิดปี 2000 ที่ติดทีมชาติในเดือนตุลาคมปีก่อน โดยปัจจุบันนี้ลงสนามแข่งขันไปทั้งหมด 3 นัดเป็นที่เรียบร้อย
ฮัดสัน-โอดอยผู้มีความเร็วระเบิดระเบ้อและมีการลากเลื้อยที่แสนมีเสน่ห์นั้น ฟอร์มของเขาเข้าตาสโมสรบาเยิร์นมิวนิกเป็นอย่างยิ่ง จากการรายงานของ BBC ระบุว่ามีข้อเสนอจากทางบาเยิร์นยื่นมา 4 ครั้งแล้ว โดยให้ราคาครั้งสุดท้ายที่ 35 ล้านปอนด์เลยด้วย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้นก็บ่งบอกได้ว่าเขาคือนักเตะที่มีศักยภาพถึงระดับไหน
ในฤดูกาลนี้โอดอยก็มีโอกาสเล่นในทีมชุดใหญ่เยอะขึ้น ลงพรีเมียร์ลีกมา 6 นัดทำได้ 0 ประตู ทว่าเกมในยูโรป้านั้นลง 8 นัดยิงไป 4 ลูกแล้ว ตัวตนของเขาเริ่มโดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ
ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าโอกาสที่จะลงสนามเล่นให้กับทีมชุดใหญ่นั้นจะมีจริงหรือไม่ หากเขาสามารถยิงประตูได้ก่อนซานโช่ล่ะก็ เขาก็จะกลายเป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่เกิดปี 2000 ที่ทำประตูให้กับทีมชาติได้ ชื่อของเขาจะต้องกลายเป็นหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest