วันที่ 17 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น การแข่งขันเซเรียอานัดที่ 28 เอซีมิลานอันดับ 3 เจอกับอินเตอร์มิลานอันดับ 4 ถือเป็นศึกมิลานดาร์บี้ที่กลับมาเยือนอีกครั้ง
ทั้งสองทีมที่มีผลคะแนนต่างกัน 1 แต้มที่ต้องเบียดสู้กันเต็มที่เพื่อคว้าโควต้า UEFA Champions League ในฤดูกาลหน้าให้ได้นั้น ก็เป็นทางฝั่งของอินเตอร์มิลานที่ช่วงชิงความได้เปรียบก่อนอย่างรวดเร็ว
ในนาทีที่ 3 อีวาน เพอริซิกโยนลูกให้กับมาร์ติเนซโหม่งนิ่ม ๆ ส่งมาในพื้นที่อันตรายหน้าปากประตูให้กับเบชีโน่เตะกดเน้น ๆ เข้าตุงตาข่ายไปอย่างงดงาม สำหรับสโมสรอินเตอร์มิลานที่ตกรอบเกมยูโรป้าไปอย่างสุดช็อคนั้นการทำประตูที่บ้านทีมเยือนก่อนนั้นถือว่ามีความหมายที่แสนสำคัญอย่างยิ่ง
หลังจากนั้นเอซีมิลานก็บุกหนัก แต่ฝั่งทีมเยือนก็คอยเพรสซิ่งจนทำให้ไม่สามารถต่อบอลไปข้างหน้าได้นัก เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่ฝั่งปิศาจแดงดำไม่สามารถสร้างโอกาสเหนาะ ๆ เพื่อทำประตูได้
แม้หลังจากนั้นเอซีมิลานจะบุกรุกเข้าพื้นที่หน้าประตูของอินเตอร์มิลานบ่อยครั้งก็ตามแต่ครึ่งแรกก็จบลงที่คะแนน 0-1
พอเข้าครึ่งหลัง เพกาต้าถูกส่งออกแล้วส่ง Samu Castillejo ลงที่เป็นนักเตะตัวเล่นริมเส้นเพื่อหวังจะเติมเกมรุกที่ติดขัดของเอซีมิลานให้มีสีสันมากขึ้น
อินเตอร์มิลานยิง 3 ลูกคว้าชัยในศึกมิลานดาร์บี้สุดเดือด! มีจังหวะใบแดงด้วยแต่ VAR กลับคำตัดสิน...
カテゴリ:メガクラブ
2019/03/18
เอซีมิลานพยายามไล่แล้ว...

Vecino ที่ฟอร์มร้อนแรงทำประตูขึ้นนำให้อินเตอร์มิลานก่อน ชัยชนะนัดนี้ทำให้อินเตอร์มิลานชนะในเกมดาร์บี้ทั้งสองนัดในฤดูกาลนี้
(C) Getty Images
แต่กระนั้นครึ่งหลังผู้ที่ชิงความได้เปรียบก่อนก็เป็นทางฝั่งของอินเตอร์ หลังจากเริ่มเขี่ยลูกครึ่งหลังอินเตอร์ก็บุกในพื้นที่ของมิลานหนัก จนกระทั่งนาที 51 ที่ต่อบอลกันสั้น ๆ ในจังหวะเตะมุม ในจังหวะสุดท้ายโพลิตาโน่เปิดลูกโยนเข้ามาจนสเตฟานเดไวรจ์ใช้หัวโหม่งเข้าโดยเน้นทิศทางเพื่อทำประตูที่ 2 ให้กับทีมได้
แม้เอซีมิลานจะถูกทิ้งห่างไป 2 ลูก กระนั้นในนาที 57 จากจังหวะเซ็ตเพลย์ คัลฮาโนกลูเปิดลูกฟรีคิกสุดคมเข้าไปในกรอบเขตโทษและเป็นทางฝั่งธีโมน บากาโยโกใช้หัวโหม่งเน้น ๆ พุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
เมื่อตามหลังเพียง 1 คะแนนจึงทำให้บรรยากาศในเกมเปลี่ยนไปทันที แฟน ๆ ของเจ้าบ้านมิลานส่งเสียงเชียร์เพื่อกดดันทีมฝั่งตรงข้ามอย่างหนักหน่วง
แต่กระนั้นอินเตอร์ก็ยังรับมืออย่างไม่ลนลาน จนกระทั่งโอกาสทองมาในนาทีที่ 67 โพลิตาโน่ที่วิ่งตัดเข้าไปข้างในกรอบเขตโทษนั้นถูกคัสติลเลโย่ทำฟาวล์เข้าจนผู้ตัดสินมอบให้เป็นจุดโทษ ซึ่งทางมาร์ติเนซก็สังหารประตูนี้อย่างไม่ยากไม่เย็นอะไรจนทำให้สกอร์ในนัดนี้เป็น 1-3
ทว่าศึกดาร์บี้นี้ยังไม่จบลง ปิศาจแดงดำยังไม่ยอมแพ้ นาที 71 ซูโว่เปิดลูกเข้าไปตรงหน้าประตู ซึ่งลูกนั้นก็เข้าปะทะตัวของคัลฮาโนกลูแล้วเปลี่ยนทิศทางจนชนตัวผู้รักษาประตูอย่างฮานดาโนวิคเข้า แม้เขาจะเอาตัวไปขวางเอาไว้ได้แต่ลูกกระดอนเเด้งมาเข้าทางของมูซัคคิโอ้พอดี ซึ่งมูซัคคิโอ้ที่ไม่มีตัวประกบก็กดประตูไปทำให้ตอนนี้ระยะห่างตามมาเหลือแค่ 1 ลูกเหมือนเดิมแล้ว
การแข่งขันนัดนี้ดุเดือดอย่างสมราคาศึกดาร์บี้ บรรยากาศภายในสนามลุกเป็นไฟ ทีมทั้งสองฝั่งสามารถโชว์ฟอร์มการเล่นในระดับสูงออกมาได้ เกมดำเนินต่อไปอีกพักหนึ่งโดยเป็นทางฝั่งของเอซีที่รุกหนักและอินเตอร์ที่ขึงกำลังรับเข้มแข็ง จนกระทั่งจังหวะน่าหวาดเสียวก็เกิดขึ้นในช่วงท้ายเกม
นาที 88 คอนตีโดนใบแดงจากจังหวะสไลด์เข้าใส่กองหน้าของทีมเจ้าบ้านอย่างมาร์ติเนซ ทว่าผู้ตัดสินก็ได้สัญญาณจาก VAR แล้วตัดสินใจไปดูภาพย้อนหลังเหตุการณ์ที่เกิดเข้า จึงทำให้เขากลับคำตัดสินเปลี่ยนเป็นเหลือแค่ใบเหลือง ซึ่งการตัดสินดังกล่าวนั้นทำให้กุนซือสปาเลตตี้ของอินเตอร์ฉุนเฉียวมากจนไปโวยวายใส่กรรมการแล้วต้องถูกสั่งให้ออกจากสนามไป
แม้จะมีเหตุการณ์สุดเดือดเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมในศึกมิลานดาร์บี้ครั้งนี้ก็ตาม ทว่าก็เป็นทางฝั่งทีมเยือนอย่างอินเตอร์มิลานที่คว้าชัยชนะในนัดนี้ได้ด้วยผลการแข่งขัน 3-2
การคว้าชัยชนะในศึกดาร์บี้ 2 นัดของอินเตอร์มิลานในฤดูกาลนี้ทำให้ทีมเด้งขึ้นมาอยู่ที่ 3 ซึ่งนั่นเป็นการหยุดสถิติไร้พ่ายของเอซีมิลานในเซเรียอาที่ 10 นัดแล้วก็ร่วงหล่นไปอยู่อันดับ 4 ด้วยฝีมือของศัตรูตลอดกาล
แม้เอซีมิลานจะถูกทิ้งห่างไป 2 ลูก กระนั้นในนาที 57 จากจังหวะเซ็ตเพลย์ คัลฮาโนกลูเปิดลูกฟรีคิกสุดคมเข้าไปในกรอบเขตโทษและเป็นทางฝั่งธีโมน บากาโยโกใช้หัวโหม่งเน้น ๆ พุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
เมื่อตามหลังเพียง 1 คะแนนจึงทำให้บรรยากาศในเกมเปลี่ยนไปทันที แฟน ๆ ของเจ้าบ้านมิลานส่งเสียงเชียร์เพื่อกดดันทีมฝั่งตรงข้ามอย่างหนักหน่วง
แต่กระนั้นอินเตอร์ก็ยังรับมืออย่างไม่ลนลาน จนกระทั่งโอกาสทองมาในนาทีที่ 67 โพลิตาโน่ที่วิ่งตัดเข้าไปข้างในกรอบเขตโทษนั้นถูกคัสติลเลโย่ทำฟาวล์เข้าจนผู้ตัดสินมอบให้เป็นจุดโทษ ซึ่งทางมาร์ติเนซก็สังหารประตูนี้อย่างไม่ยากไม่เย็นอะไรจนทำให้สกอร์ในนัดนี้เป็น 1-3
ทว่าศึกดาร์บี้นี้ยังไม่จบลง ปิศาจแดงดำยังไม่ยอมแพ้ นาที 71 ซูโว่เปิดลูกเข้าไปตรงหน้าประตู ซึ่งลูกนั้นก็เข้าปะทะตัวของคัลฮาโนกลูแล้วเปลี่ยนทิศทางจนชนตัวผู้รักษาประตูอย่างฮานดาโนวิคเข้า แม้เขาจะเอาตัวไปขวางเอาไว้ได้แต่ลูกกระดอนเเด้งมาเข้าทางของมูซัคคิโอ้พอดี ซึ่งมูซัคคิโอ้ที่ไม่มีตัวประกบก็กดประตูไปทำให้ตอนนี้ระยะห่างตามมาเหลือแค่ 1 ลูกเหมือนเดิมแล้ว
การแข่งขันนัดนี้ดุเดือดอย่างสมราคาศึกดาร์บี้ บรรยากาศภายในสนามลุกเป็นไฟ ทีมทั้งสองฝั่งสามารถโชว์ฟอร์มการเล่นในระดับสูงออกมาได้ เกมดำเนินต่อไปอีกพักหนึ่งโดยเป็นทางฝั่งของเอซีที่รุกหนักและอินเตอร์ที่ขึงกำลังรับเข้มแข็ง จนกระทั่งจังหวะน่าหวาดเสียวก็เกิดขึ้นในช่วงท้ายเกม
นาที 88 คอนตีโดนใบแดงจากจังหวะสไลด์เข้าใส่กองหน้าของทีมเจ้าบ้านอย่างมาร์ติเนซ ทว่าผู้ตัดสินก็ได้สัญญาณจาก VAR แล้วตัดสินใจไปดูภาพย้อนหลังเหตุการณ์ที่เกิดเข้า จึงทำให้เขากลับคำตัดสินเปลี่ยนเป็นเหลือแค่ใบเหลือง ซึ่งการตัดสินดังกล่าวนั้นทำให้กุนซือสปาเลตตี้ของอินเตอร์ฉุนเฉียวมากจนไปโวยวายใส่กรรมการแล้วต้องถูกสั่งให้ออกจากสนามไป
แม้จะมีเหตุการณ์สุดเดือดเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมในศึกมิลานดาร์บี้ครั้งนี้ก็ตาม ทว่าก็เป็นทางฝั่งทีมเยือนอย่างอินเตอร์มิลานที่คว้าชัยชนะในนัดนี้ได้ด้วยผลการแข่งขัน 3-2
การคว้าชัยชนะในศึกดาร์บี้ 2 นัดของอินเตอร์มิลานในฤดูกาลนี้ทำให้ทีมเด้งขึ้นมาอยู่ที่ 3 ซึ่งนั่นเป็นการหยุดสถิติไร้พ่ายของเอซีมิลานในเซเรียอาที่ 10 นัดแล้วก็ร่วงหล่นไปอยู่อันดับ 4 ด้วยฝีมือของศัตรูตลอดกาล