มีความแข็งแกร่งและเป็นคนพูดตรง
ในศึก El Clásico ที่ผ่านมา ปีเก้โชว์ฟอร์มสุดเยี่ยมร่วมกันกับล็องแกลในการปิดตายมาดริดอย่างสมบูรณ์แบบ
(C)Getty Images
นักเตะในยุคทองของบาร์ซ่าที่เล่นเพื่อทีมมาอย่างยาวนานนั้น มีตั้งแต่ซาบี้ อิเนียสต้า รวมไปถึงยอดมนุษย์ลีโอเนล เมสซี่ที่เป็นนักเตะซึ่งหาใครมาเทียบเคียงไม่ได้เลย
ทว่าในช่วงฤดูร้อนของปีก่อน อิเนียสต้าก็อำลาบาร์ซ่าตามหลังซาบี้ไป แม้ตอนนี้ที่แดนกลางจะยังมีเซร์ฆิโอ้ บุสเกตส์คอยกุมบังเหียนอยู่ก็ตาม แต่ Pass Soccer ที่เป๊ป กวาดิโอลาร์ วางรากฐาน DNA เอาไว้นั้นก็เริ่มเจือจางลงไปในช่วงหลายปีให้หลังมานี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้หากจะพูดว่าเมสซี่แบกบาร์ซ่าเอาไว้อยู่นั้นก็คงไม่ใช่คำพูดที่เกินเลยแต่อย่างใด
แต่นอกจากพวกเขาเหล่านั้นแล้วก็ยังมีนักเตะผู้เป็นกระดูกสันหลังของทีมอยู่อีกคนเหมือนกัน เขาก็คือเคราร์ด ปีเก้ ซึ่งทางกุนซือที่มารับช่วงต่อคุมบาร์ซ่าจากเป๊ปอย่างตีโต บีลานอบาผู้ล่วงลับนั้นยังพูดถึงปีเก้ว่า "ถ้าไม่มีปีเก้ล่ะก็ สภาพของทีมนั้นก็จะถึงทางตันโดยทันที" คำพูดนั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของปีเก้ดีเหลือเกิน จนกระทั่งถึงทุกวันนี้เขาก็ยังคอยช่วยดูแลเส้นสุดท้ายของทีมด้วยความทุ่มเทอย่างไม่เสื่อมคลาย
เมื่อการแข่งขันศึกลาลีก้านัดที่ 26 จบลง ขณะนี้บาร์ซ่ามีเพียงแค่ปีเก้คนเดียวเท่านั้นที่ลงแข่งทุกนัดเต็มเวลาตลอด 90 นาที ซึ่งในการแข่งขันนัดที่ 24 ที่เจอกับ Valladolid นั้น เขาก็เป็นคนที่ถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษจนเมสซี่สังหารประตู(การแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของบาร์ซ่าที่ 1-0) นอกจากจะรับอย่างแข็งแกร่งแล้วก็มีส่วนช่วยในเกมรุกอย่างมหาศาล ในฤดูกาลนี้เขายิงไปแล้ว 5 ประตูในการแข่งขันทุกรายการ
ทว่าในช่วงฤดูร้อนของปีก่อน อิเนียสต้าก็อำลาบาร์ซ่าตามหลังซาบี้ไป แม้ตอนนี้ที่แดนกลางจะยังมีเซร์ฆิโอ้ บุสเกตส์คอยกุมบังเหียนอยู่ก็ตาม แต่ Pass Soccer ที่เป๊ป กวาดิโอลาร์ วางรากฐาน DNA เอาไว้นั้นก็เริ่มเจือจางลงไปในช่วงหลายปีให้หลังมานี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้หากจะพูดว่าเมสซี่แบกบาร์ซ่าเอาไว้อยู่นั้นก็คงไม่ใช่คำพูดที่เกินเลยแต่อย่างใด
แต่นอกจากพวกเขาเหล่านั้นแล้วก็ยังมีนักเตะผู้เป็นกระดูกสันหลังของทีมอยู่อีกคนเหมือนกัน เขาก็คือเคราร์ด ปีเก้ ซึ่งทางกุนซือที่มารับช่วงต่อคุมบาร์ซ่าจากเป๊ปอย่างตีโต บีลานอบาผู้ล่วงลับนั้นยังพูดถึงปีเก้ว่า "ถ้าไม่มีปีเก้ล่ะก็ สภาพของทีมนั้นก็จะถึงทางตันโดยทันที" คำพูดนั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของปีเก้ดีเหลือเกิน จนกระทั่งถึงทุกวันนี้เขาก็ยังคอยช่วยดูแลเส้นสุดท้ายของทีมด้วยความทุ่มเทอย่างไม่เสื่อมคลาย
เมื่อการแข่งขันศึกลาลีก้านัดที่ 26 จบลง ขณะนี้บาร์ซ่ามีเพียงแค่ปีเก้คนเดียวเท่านั้นที่ลงแข่งทุกนัดเต็มเวลาตลอด 90 นาที ซึ่งในการแข่งขันนัดที่ 24 ที่เจอกับ Valladolid นั้น เขาก็เป็นคนที่ถูกทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษจนเมสซี่สังหารประตู(การแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของบาร์ซ่าที่ 1-0) นอกจากจะรับอย่างแข็งแกร่งแล้วก็มีส่วนช่วยในเกมรุกอย่างมหาศาล ในฤดูกาลนี้เขายิงไปแล้ว 5 ประตูในการแข่งขันทุกรายการ
โดยหลังการแข่งขันกับ Valladolid จบลง ปีเก้ที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งและขึ้นชื่อเรื่องการพูดตรง ๆ ก็ให้สัมภาษณ์ว่า "พวกเราเล่นไม่ดีเลย ควรจะเร่งความเร็วในการจ่ายลูกมากกว่านี้ พวกเราจำเป็นต้องทำให้เกมรุกไหลลื่นและเพิ่มระดับของการครองบอลมากยิ่งขึ้น" เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาถึงความอ่อนแอของทีมโดยไม่มีซุกซ่อน ซึ่งทางปีเก้นั้นก็เป็นนักเตะผู้มีบุคลิกซื่อตรงที่ใคร ๆ ต่างก็ยอมรับ ซึ่งทางกุนซือคนปัจจุบันอย่างเอร์เนสโต บัลเบร์เด้ก็ไม่เคยตำหนิปีเก้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
ปีเก้คือคนที่ตกเป็นเป้าสายตาเสมอไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องร้าย ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ระบุได้อย่างดีว่าเขาคือผู้ที่มีจิตใจอย่างเข้มแข็ง องอาจ พร้อมเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่างโดยปราศจากซึ่งความเกรงกลัว ในฤดูกาลนี้ปีเก้มีตำแหน่งเป็นกัปตันคนที่ 3 นั่นจึงทำให้ภาระความรับผิดชอบของเขานั้นเหมือนจะหนักอึ้งขึ้น ท่าทางนั่นจะยิ่งทำให้เขาต้องเข้มงวดกับตัวเองมากยิ่งขึ้นและพยายามทำทุกอย่างเพื่อทีมสืบต่อไป
ด้วยความที่ปีเก้ถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ทำเพื่อทีมในช่วงหลังมานี้เป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้เสียงวิพากย์วิจารณ์เรื่องที่ปีเก้มัวแต่ยุ่งอยู่กับธุรกิจส่วนตัวนั้นจึงไม่ได้ยินอีกต่อไป
ปีเก้ผู้ที่มีความอิ่มเอมทั้งในชีวิตจริงและวงการฟุตบอลนั้น ในขณะนี้เขาเริ่มจะกลายเป็นสัญลักษณ์ที่มีชีวิตของบาร์ซ่าในไม่ช้า แม้เขาจะเป็นนักเตะที่แตกต่างจากซาบี้ อิเนียสต้าและเมสซี่ก็ตาม แต่ปีเก้ก็เป็น "GENIO(ภาษาสเปนแปลว่าอัจฉริยะ)" ในยุคทองของบาร์ซ่าอีกคนหนึ่งเช่นเดียวกัน
ข่าวโดย: รามอน เวซ่า (นักข่าวประจำสโมสร Barcelona ของนิตยสาร El País)
แปลโดย ชิโมมูระ มาซายูกิ
※Soccer Digest คือผู้ถือลิขสิทธิ์แปลข่าวจากนิตยสาร El País แต่เพียงผู้เดียวในประเทศญี่ปุ่น
ปีเก้คือคนที่ตกเป็นเป้าสายตาเสมอไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องร้าย ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ระบุได้อย่างดีว่าเขาคือผู้ที่มีจิตใจอย่างเข้มแข็ง องอาจ พร้อมเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่างโดยปราศจากซึ่งความเกรงกลัว ในฤดูกาลนี้ปีเก้มีตำแหน่งเป็นกัปตันคนที่ 3 นั่นจึงทำให้ภาระความรับผิดชอบของเขานั้นเหมือนจะหนักอึ้งขึ้น ท่าทางนั่นจะยิ่งทำให้เขาต้องเข้มงวดกับตัวเองมากยิ่งขึ้นและพยายามทำทุกอย่างเพื่อทีมสืบต่อไป
ด้วยความที่ปีเก้ถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ทำเพื่อทีมในช่วงหลังมานี้เป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้เสียงวิพากย์วิจารณ์เรื่องที่ปีเก้มัวแต่ยุ่งอยู่กับธุรกิจส่วนตัวนั้นจึงไม่ได้ยินอีกต่อไป
ปีเก้ผู้ที่มีความอิ่มเอมทั้งในชีวิตจริงและวงการฟุตบอลนั้น ในขณะนี้เขาเริ่มจะกลายเป็นสัญลักษณ์ที่มีชีวิตของบาร์ซ่าในไม่ช้า แม้เขาจะเป็นนักเตะที่แตกต่างจากซาบี้ อิเนียสต้าและเมสซี่ก็ตาม แต่ปีเก้ก็เป็น "GENIO(ภาษาสเปนแปลว่าอัจฉริยะ)" ในยุคทองของบาร์ซ่าอีกคนหนึ่งเช่นเดียวกัน
ข่าวโดย: รามอน เวซ่า (นักข่าวประจำสโมสร Barcelona ของนิตยสาร El País)
แปลโดย ชิโมมูระ มาซายูกิ
※Soccer Digest คือผู้ถือลิขสิทธิ์แปลข่าวจากนิตยสาร El País แต่เพียงผู้เดียวในประเทศญี่ปุ่น