มามาดู ซาโก้ เซนเตอร์แบ็คทีมชาติฝรั่งเศสที่ปัจจุบันนี้อยู่กับสโมสรคริสตัลพาเลซ ล่าสุดเขาทำการบอกเล่าชีวิตที่แสนรันทดของตัวเองออกมาให้ได้รับฟัง
ซาโก้ในปัจจุบันนี้ที่มีวัย 29 ปีนั้น เขาได้รับการยอมรับว่ามีพรสวรรค์มาตั้งแต่ยังเยาว์วัย
ในปี 2002 ที่มีอายุครบ 13 ปี เขาอยู่ในทีมเยาวชนของ PSG จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2007 เขาก็ได้ลงสู้ศึก UEFA Cup เจอกับสโมสร AEK Athens ในฐานะนักเตะทีมชุดใหญ่ ซึ่งในเดือนตุลาคมของปีเดียวกันเขาก็ได้สวมปลอกแขนกัปตันซึ่งถือเป็นกัปตันที่มีอายุน้อยที่สุดในสโมสร แล้วในที่สุดก็ได้ลงเล่นศึกลีกเอิงเป็นครั้งแรก
ส่วนผลงานในฐานะนักเตะทีมชาตินั้น เขาก็ถูกเรียกติดทีมชาติมาอย่างยาวนาน โดยนัดแรกสุดที่ได้ลงสนามนั้นเป็นเกมวันที่ 17 พฤศจิกายน 2011 ที่ต้องเจอกับทีมชาติอังกฤษ เขาได้ลงแข่งฟุตบอลโลกที่บราซิลในปี 2014 ทั้งหมด 4 นัด
ในช่วงฤดูร้อนปี 2013 เขาย้ายไปเล่นให้กับสโมสรลิเวอร์พูลเป็นเวลาสามปี จากนั้นในปี 2017 ก็ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรคริสตัลพาเลซ
หากมองเส้นทางชีวิตดังกล่าวนั้นก็เหมือนกับว่าเขาเป็นคนที่เส้นทางโรยด้วยกลีบกุหลาบดี ทว่าในความเป็นจริงนั้นช่วงชีวิตของเขากลับเต็มไปด้วยความโหดร้ายอย่างสุดเหลือเชื่อ
ซาโก้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์อังกฤษอย่าง Daily Mail ว่า "ตอนเด็ก ๆ ผมนั่งขอทานอยู่ริมถนนปารีสครับ" เขาสารภาพถึงชีวิตของตัวเองที่สุดแสนจะเหลือเชื่อออกมา
พ่อตายตอนอายุ 13 ปีต้องกลายเป็นขอทานริมถนน... เซนเตอร์แบ็คทีมชาติฝรั่งเศสสารภาพ "ผมรู้ถึงความอดอยากเป็นอย่างดี"
カテゴリ:ワールド
2019/02/28
เซนเตอร์แบ็คที่ค้าแข้งอยู่กับ PSG และลิเวอร์พูลมาก่อนบอกเล่าชีวิตรันทดของเขา

ซาโก้หนึ่งในนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกล่าสุด ใครจะไปเชื่อว่าผู้เล่นระดับสูงอย่างเขาจะมีอดีตเช่นนี้ได้
(C) Getty Images
ซาโก้เป็นลูกคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 7 คนโดยมีพ่อแม่เป็นชาวเซเนกัล ในสมัยที่อยู่ในกรุงปารีสเขาต้องย้ายบ้านหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งเมื่อซาโก้มีอายุ 13 ปีบิดาของเขาก็ถึงแก่กรรม ซึ่งนั่นทำให้ชีวิตต้องตกอับยิ่งกว่าเดิม
"ผมเคยเป็นเด็กขอทานที่ปารีสมาก่อนครับ มีผู้หญิงคนหนึ่งมองผมแล้วคิดว่าผมเป็นโจรขโมย เธอรีบเอากระเป๋าของตัวเองขึ้นมากอดแน่นเลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกช็อคมาก ผมแค่อยากได้เศษเงินมาซื้อขนมปังกินเท่านั้น หล่อนกลับคิดว่าผมจะขโมยเงินของเธอด้วยซ้ำไป
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาผมก็สัญญากับตัวเองครับว่าจะยืนหยัดด้วยตัวคนเดียวให้ได้ "จำเอาไว้นะ พอผู้หญิงคนหนึ่งที่เห็นผมหิวโซ หล่อนก็คิดว่าผมจะก่อเรื่องไม่ดีเข้า แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งที่ผมมีอยู่มีกินเมื่อไร ผมจะกลายเป็นผู้ให้แทน" ตามนั้นครับ"
นอกจากนั้นซาโก้ยังระบุว่า "ผมเข้าใจถึงความอดอยากเป็นอย่างดีครับ ผมต้องหาเศษเงินเพื่อปากท้อง ซึ่งนั่นคือชีวิตของผมในสมัยตอนยังเด็ก ๆ ครับ" จากนั้นซาโก้ก็พูดถึงเหตุการณ์ในวัย 13 ปีของเขาที่สูญเสียบิดาไป
"พ่อของผมตายตอนที่ผมอายุ 13 ปี มันทำให้ผมตัดสินใจได้ว่า "ผมต้องเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพให้ได้" จากนั้นผมจึงตั้งหน้าตั้งตาอย่างเต็มที่เพื่อที่จะหาเลี้ยงครอบครัวให้ได้ครับ จาก "เด็กชาย" ในวันนั้นผมกลายเป็น "ผู้ชาย" ขึ้นมา สำหรับผมแล้วการเป็นนักฟุตบอลนั้น มันไม่ใช่แค่เป้าหมายแต่มันเป็นภารกิจที่ต้องทำให้ได้ครับ"
นักเตะทีมชาติฝรั่งเศสผู้มีชีวิตอันสุดโชกโชนคนนี้นั้น ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาเขาแวะเวียนไปเยี่ยมเยียน 8 ชาติในแอฟริกา นอกจากนั้นยังก่อตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก "สุไลมาน ซาโก้" ตามชื่อพ่อของตัวเองที่บ้านเกิดอย่างประเทศเซเนกัล ตัวของซาโก้นั้นมีส่วนร่วมกับกิจกรรมเพื่อการกุศลอย่างมากมาย
แม้เขาจะทำกิจกรรมเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่ซาโก้ก็ยังระบุว่า "แค่การส่งเงินไปแอฟริกาอย่างเดียวเท่านั้นไม่พอครับ เราต้องส่งความหวังไปให้กับผู้คนที่มีาชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก การยื่นมือช่วยคือสิ่งที่สำคัญมากเลยครับ" เขาระบุออกมาเช่นนั้น
นอกจากนั้นซาโก้ยังพูดถึงชีวิตในอนาคตหากแขวนสตั๊ดด้วยว่า "เอาเป็นว่าผมอยากจะเรียนครับ ก็ไม่รู้ว่าจะไปทิศทางไหนเหมือนกัน อาจจะเป็นสายการเมือง นักกิจกรรมหรือผู้สร้างภาพยนตร์ ไม่ว่าจะอะไรผมก็อยากจะทำให้ได้หมดเลยครับ" อนาคตที่ซาโก้วาดฝันเอาไว้นั้นคงอีกไม่นานแน่เลย อยากรู้จริง ๆ ว่าอาชีพที่สองหลังจากแขวนสตั๊ดของซาโก้นั้นจะเป็นอะไรกันแน่ น่าติดตามเหลือเกิน