การคว้าตัว "แฟรงกี เดอยอง" ของบาร์เซโลน่านั้นจัดได้ว่าเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

  ทัพหลักของบาร์ซ่าในปัจจุบันนั้น ไม่ว่าจะเป็นเฆราด์ ปีเก้, เซร์ฆิโอ้ บุสเกตส์, ลิโอเนล เมสซี่และหลุยส์ ซัวเรสนั้น พวกเขาต่างก็เป็นนักเตะยุคทองที่วัยเกิน 30 กันหมดแล้ว อายุที่มีมากขึ้นพละกำลังก็เริ่มลดลงตาม นอกจากนั้นแดนกลางผู้ก่อให้เกิดสไตล์บาร์ซ่าในทุกวันนี้อย่างซาบี้ไปจนถึงอิเนียสต้านั้นก็ลาจากทีมไปแล้ว เพราะฉะนั้นในตอนนี้ทางสโมสรจึงต้องหาผู้สืบทอดตำแหน่งดังกล่าวมาให้ได้

  แต่กระนั้นในช่วงหลังมานี้นักเตะในระดับเยาวชนของถิ่นกันคาตาลันผู้มีพรสวรรค์ดังกล่าวนั้นยังไม่ปรากฏตัวออกมา จึงทำให้บาร์ซ่าจำเป็นต้องควานหากำลังจากภายนอก ซึ่งนั่นก็นำปัญหาต่อมาหรือคือการต้องทุ่มกำลังซื้อตัวนักเตะด้วยงบเพดานที่ถูกจำกัดเอาไว้ตามกฎของฟีฟ่า

  เพื่อการนั้นแล้วบาร์ซ่าจึงต้องทุ่มเงินแข่งกับสโมสรที่มีงบมากมายอาทิ PSG และแมนเชสเตอร์ซิตี้เพื่อคว้าตัวของเดอยอง เด็กหนุ่มผู้มีศักยภาพจะกลายเป็นโยฮัน ไกรฟ์และสืบทอดสไตล์การเล่นแบบเป๊ป กวาดิโอลาร์ได้เลย เพียงเท่านี้ก็เป็นการแสดงออกของบาร์ซ่าแล้วว่าการเสริมขุมกำลังตัวนักเตะรุ่นใหม่นี้จะเป็นการสร้างอิมแพ็คเพื่อความแข็งแกร่งสำหรับอนาคตภายภาคหน้านั่นเอง
 

  ตำนานของบาร์ซ่าที่เป็นตำนานของทีมชาติเนเธอร์แลนด์อย่าง โรนัลด์ โคแมน นั้นก็ออกมาพูดถึงการคว้าตัวเดอยองด้วยความชื่นชมว่า

  "การสัมผัสบอล การอ่านเกม ไม่ว่าจะด้านไหนเขาก็มีอย่างสูงส่ง เขาจะกลายเป็นคีย์แมนของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ความยืดหยุ่นในการเล่น 3 ตำแหน่งในแดนกลางได้หมดนั้นก็เป็นสิ่งที่มีเสน่ห์มาก สามารถไล่เพรสซิ่งได้ สามารถครองบอลที่เท้าได้อย่างยอดเยี่ยม ในส่วนเรื่องการจ่ายจังหวะสุดท้ายกับการยิงนั้นยังมีช่องว่างให้เติบโตอยู่ แต่กระนั้นเขาก็เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมาก"

  งบในการคว้าตัวเดอยองนั้นอยู่ที่ 75 ล้านยูโร+โบนัส 11 ล้านยูโร จึงทำให้ในช่วงหน้าร้อนนี้บาร์ซ่าต้องพิจารณาขายนักเตะ 2 คนเพื่อปฏิบัติตามกฎ Financial Fair Play นั่นเอง

  หนึ่งในนั้นคืออิวาน ราคิติช เขายังเป็นนักเตะที่มีความต้องการในตลาดสูง เขาสามารถลงสนามด้วยการเล่นตัวจริงได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกคนนั้นคงต้องเป็นอาตูร์ไม่ก็อุซมาน เดมเบเล่ แม้พวกเขาทั้งสองจะเป็นนักเตะรุ่นใหม่ผู้แบกความหวังของบาร์ซ่าในอนาคตเอาไว้ก็ตาม แต่บางทีสถานการณ์ที่ไม่คาดถึงก็มาได้เสมอ

  อีกหนึ่งเรื่องยากคือเรื่องของตัวฟิลิปเป้ คูตินโญ่ หลังจากคว้าตัวเขามาร่วมทัพได้ 1 ปีเขาก็ยังไม่สามารถแสดงทักษะที่แท้จริงของตัวเองออกได้มากนัก ซึ่งนั่นทำให้ทางสโมสรรู้สึกกังวลไม่น้อย ตัวตนของคูตินโญ่นั้นยังเป็นที่ต้องการในตลาดอังกฤษอยู่ บางทีอาจจะมีการขับเคลื่อนเกิดขึ้นในอนาคตก็เป็นได้ ส่วนตัวของจอร์ดี้ อัลบานั้นยังอยู่ในระหว่างเจรจาต่อสัญญา(สัญญาปัจจุบันจะหมดในเดือนมิถุนายน 2020) ซึ่งก็มีข่าวออกมาว่าจากผู้ใกล้ชิดว่าการเจรจาได้ข้อยุติเป็นที่เรียบร้อย

  การประกาศคว้าตัวเดอยองในวันที่ 23 มกราคมนั้น ก็เป็นวันเดียวกันกับที่อดีตประธานของบาร์ซ่าคนเก่าอย่าง Josep Lluís Núñez คว้าตัวโคแมนเข้าร่วมทีมเมื่อ 30 ปีก่อนพอดีอีกด้วย

  แม้จะมีการติติงตัวของประธานสโมสรคนปัจจุบันอย่างโจเซฟ มาเรีย บาโทมิวว่าเป็นการทรยศสไตล์ของบาร์ซ่าก็ตาม แต่นับตั้งแต่การคว้าตัวไกรฟ์ที่แสดงออกถึงความเป็นฟุตบอลสมบูรณ์แบบในวันนั้น รวมทั้งอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สไตล์การเล่นสมบูรณ์แบบขึ้นมาคือการรักษาปรัชญาที่เป๊ป กวาดิโอลาร์วางรากฐานเอาไว้พร้อมกับควานหาตัวนักเตะที่มีศักยภาพสืบต่อไป

  การคว้าตัวเดอยองมาของบาร์ซ่านั้น เป็นสิ่งที่ช่างมีความยิ่งใหญ่และมีความหมายอย่างมากมายนั่นเอง

ข่าวโดย จอร์ดี้ คิเชียโน่ รามอนเวซ่า(หนังสือพิมพ์ El País/นักข่าวประจำสโมสรบาร์เซโลน่า)
แปลโดย ชิโมมิระ มาซายูกิ
※Soccer Digest คือผู้ถือลิขสิทธิ์แปลข่าวจาก El País ภายในญี่ปุ่นแต่เพียงผู้เดียว