พร้อมทั้งยังพูดถึงนัดประเดิมสนามที่แสนสวยงาม
คากาวะผู้ยิงประตูในนัดประเดิมสนามหลังเปิดตัวกับสโมสรใหม่เพียงสองวัน ล่าสุดเขาให้สัมภาษณ์พูดถึงสาเหตุที่ตัดสินใจย้ายมาที่นี่
(C) Getty Images
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นคากาวะ ชินจิได้พูดถึงการย้ายมาร่วมสโมสรเบซิกตัสของเขาออกมา
คากาวะ ชินจิ ที่เดินทางมายังประเทศตุรกีแล้วเซ็นสัญญากับสโมสรเบซิกตัสในวันเส้นตายของตลาดซื้อขายนั้น เขาก็ลงเล่นในตำแหน่งนักเตะตัวสำรองของทีมแล้วเจอกับสโมสร Antalyaspor ในนัดที่ 20 ของฤดูกาล คากาวะที่ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 80 นั้น เขาก็ยิง 2 ประตูในช่วงเวลา 3 นาทีเพียงเท่านั้น กล่าวได้ว่าเป็นการเปิดตัวที่แสนสวยหรูสุดเจิดจรัสเลยก็ว่าได้
2 วันผ่านไปหลังจากนัดประเดิมสนาม คากาวะจัดงานแถลงข่าวพร้อมกับพูดถึงการย้ายมาเล่นสโมสรใหม่และการแข่งขันนัดแรกว่า
"โดยส่วนตัวของผมนั้น ผมเองก็ไม่คาดคิดคาดฝันเหมือนกันครับว่าหลังจากที่ลงสนามแล้วพอได้สัมผัสบอลเป็นครั้งแรกนั้นก็จะทำประตูได้เลย ราวกับฝันไปจริง ๆ ครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นผมจะไม่มีวันลืมชั่วชีวิต ผมดีใจมากจริง ๆ ครับ แต่ผมก็ยังคิดว่ามันก็เพิ่งเป็นการแข่งขันเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น"
นอกจากนั้นทางเจ้าตัวก็ยังพูดถึงสัญญาด้วย
ทางสโมสรมีการประกาศออกมาว่าสัญญายืมตัวของคากาวะจะถึงแค่เดือนมิถุนายนนี้ซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดฤดูกาลเท่านั้น ส่วนทางสื่อบางแห่งบอกว่าคากาวะมีออพชั่นซื้อตัวขาดอยู่ที่มูลค่า 1.6 ล้านยูโร จนกระทั่งพอมีคนถามคำถามดังกล่าวไปคากาวะก็ตอบกลับว่า "สัญญาของผมจะอยู่จนถึงฤดูร้อนนี้ครับ แต่เรื่องของอนาคตบอกตามตรงเลยว่าผมยังไม่รู้ครับ" จากนั้นคากาวะก็กล่าวต่อด้วยสีหน้าที่จริงจัง
คากาวะ ชินจิ ที่เดินทางมายังประเทศตุรกีแล้วเซ็นสัญญากับสโมสรเบซิกตัสในวันเส้นตายของตลาดซื้อขายนั้น เขาก็ลงเล่นในตำแหน่งนักเตะตัวสำรองของทีมแล้วเจอกับสโมสร Antalyaspor ในนัดที่ 20 ของฤดูกาล คากาวะที่ถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 80 นั้น เขาก็ยิง 2 ประตูในช่วงเวลา 3 นาทีเพียงเท่านั้น กล่าวได้ว่าเป็นการเปิดตัวที่แสนสวยหรูสุดเจิดจรัสเลยก็ว่าได้
2 วันผ่านไปหลังจากนัดประเดิมสนาม คากาวะจัดงานแถลงข่าวพร้อมกับพูดถึงการย้ายมาเล่นสโมสรใหม่และการแข่งขันนัดแรกว่า
"โดยส่วนตัวของผมนั้น ผมเองก็ไม่คาดคิดคาดฝันเหมือนกันครับว่าหลังจากที่ลงสนามแล้วพอได้สัมผัสบอลเป็นครั้งแรกนั้นก็จะทำประตูได้เลย ราวกับฝันไปจริง ๆ ครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นผมจะไม่มีวันลืมชั่วชีวิต ผมดีใจมากจริง ๆ ครับ แต่ผมก็ยังคิดว่ามันก็เพิ่งเป็นการแข่งขันเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น"
นอกจากนั้นทางเจ้าตัวก็ยังพูดถึงสัญญาด้วย
ทางสโมสรมีการประกาศออกมาว่าสัญญายืมตัวของคากาวะจะถึงแค่เดือนมิถุนายนนี้ซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดฤดูกาลเท่านั้น ส่วนทางสื่อบางแห่งบอกว่าคากาวะมีออพชั่นซื้อตัวขาดอยู่ที่มูลค่า 1.6 ล้านยูโร จนกระทั่งพอมีคนถามคำถามดังกล่าวไปคากาวะก็ตอบกลับว่า "สัญญาของผมจะอยู่จนถึงฤดูร้อนนี้ครับ แต่เรื่องของอนาคตบอกตามตรงเลยว่าผมยังไม่รู้ครับ" จากนั้นคากาวะก็กล่าวต่อด้วยสีหน้าที่จริงจัง
"ผมรู้สึกว่า ผมอยากจะไปข้างหน้าทีละนัด ๆ ครับ ผมอยากจะเป็นกำลังที่ช่วยทำให้อันดับของทีมเพิ่มขึ้นได้แม้เพียงเล็กน้อย ผมอยากจะเป็นเรี่ยวเป็นแรงเพื่อให้สโมสรจบอันดับดี ๆ ในฤดูกาลนี้ให้ได้ครับ สาเหตุที่ผมเลือกมาที่นี่ก็ด้วยเหตุผลนั้น และผมจะพยายามในทุก ๆ วันเพื่อคว้าสิ่งนั้นมาครองให้ได้ครับ คิดว่ามันคงเป็นเรื่องของความทุ่มเทครับ นอกเหนือจากนั้นแล้วในตอนนี้ผมไม่ได้คิดถึงอะไรทั้งนั้นครับ"
คากาวะให้เหตุผลถึงสาเหตุที่ย้ายมาที่นี่ว่า "สโมสรแห่งนี้มีสนามและแฟน ๆ ที่แสนยอดเยี่ยม" นอกจากนั้นเขายังพูดถึงศึกดาร์บี้อิสทันบูลที่จะได้เจอกับสโมสรกาลาตาซารายซึ่งมีกองหลังทีมชาติญี่ปุ่นอย่างนากาโทโมะ ยูโตะ(เตะกันวันที่ 6 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น) ด้วยว่า
"แม้ผมจะเล่นมาให้กับทั้งดอร์ทมุนด์และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาก่อนแล้วก็ตาม แต่การลงแข่งในสนาที่เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่แสนวิเศษนั้นไม่ใช่สิ่งที่หาเจอได้ง่าย ผมตั้งหน้าตั้งตารอในช่วงครึ่งฤดูกาลที่เหลือมากเลยครับ ผมจะต้องเอาชนะให้ได้ แล้วต้องทำให้พวกแฟน ๆ ดีใจโห่ร้องหลังการแข่งขันจบลงให้ได้ครับ ผมจะพยายามเพื่อการนั้น"
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์นั้น นักข่าวท้องถิ่นก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นไปว่า "จบฤดูกาลแล้วอย่าไปไหนเลยนะครับ ช่วยอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายปีด้วยเถอะครับ คากาวะ" เลยทำให้คากาวะตอบไปว่า "ขอบคุณมากเลยครับ คุณพูดภาษาญี่ปุ่นได้เก่งมาก ผมอยากจะโฟกัสกับเกมเพื่อตอบรับความคาดหวังให้ได้ครับ" แล้วก็ยิ้มให้
คากาวะให้เหตุผลถึงสาเหตุที่ย้ายมาที่นี่ว่า "สโมสรแห่งนี้มีสนามและแฟน ๆ ที่แสนยอดเยี่ยม" นอกจากนั้นเขายังพูดถึงศึกดาร์บี้อิสทันบูลที่จะได้เจอกับสโมสรกาลาตาซารายซึ่งมีกองหลังทีมชาติญี่ปุ่นอย่างนากาโทโมะ ยูโตะ(เตะกันวันที่ 6 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น) ด้วยว่า
"แม้ผมจะเล่นมาให้กับทั้งดอร์ทมุนด์และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาก่อนแล้วก็ตาม แต่การลงแข่งในสนาที่เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่แสนวิเศษนั้นไม่ใช่สิ่งที่หาเจอได้ง่าย ผมตั้งหน้าตั้งตารอในช่วงครึ่งฤดูกาลที่เหลือมากเลยครับ ผมจะต้องเอาชนะให้ได้ แล้วต้องทำให้พวกแฟน ๆ ดีใจโห่ร้องหลังการแข่งขันจบลงให้ได้ครับ ผมจะพยายามเพื่อการนั้น"
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์นั้น นักข่าวท้องถิ่นก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นไปว่า "จบฤดูกาลแล้วอย่าไปไหนเลยนะครับ ช่วยอยู่ที่นี่ต่ออีกหลายปีด้วยเถอะครับ คากาวะ" เลยทำให้คากาวะตอบไปว่า "ขอบคุณมากเลยครับ คุณพูดภาษาญี่ปุ่นได้เก่งมาก ผมอยากจะโฟกัสกับเกมเพื่อตอบรับความคาดหวังให้ได้ครับ" แล้วก็ยิ้มให้