การแข่งขันทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของญี่ปุ่นครั้งที่ 97 รอบชิงชนะเลิศเตะกันในวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ณ สนาม Saitama Stadium การแข่งขันจบลงด้วยทีมอาโอโมริยามาดะ (จังหวัดอาโอโมริ) ชนะทีมริวซึเคไซไดคาชิวะ (จังหวัดจิบะ) ได้ด้วยผลการแข่งขัน 3 ต่อ 1 นับเป็นการคว้าแชมป์ในรอบ 2 ทัวร์นาเมนต์ของโรงเรียนจากจังหวัดอาโอโมริ

  ทั้ง 2 โรงเรียนที่อยู่ในระดับแนวหน้าของวงการฟุตบอลมัธยมนั้นต่างก็เปิดฉากดวลกันตั้งแต่เริ่มเขี่ยลูกอย่างดุเดือด โดยเป็นทางฝั่งของโรงเรียนริวซึเคไซที่เน้นเพรซซิ่งหนักแล้วรุกกดดันด้วยความเร็วสูง แต่กระนั้นโรงเรียนอาโอโมริก็ยังคอยเล่นต่อบอลกันเพื่อหาโอกาสอยู่เสมอ

  ท่ามกลางการผลัดกันรุกและรับที่ดำเนินไปอยู่พักหนึ่งนั้น ทีมที่ทำประตูขึ้นนำก่อนเป็นทางฝั่งของโรงเรียนริวซึเคไซ ในนาทีที่ 32 ของครึ่งแรก คุมาซาวะ คาซึกิ(ม.6) เปิดลูกเตะมุมจากทางขวาโยนเข้ามาให้กับว่าที่นักเตะคาชิมะอย่างเซกิกาวะ อิคุมะ(ม.6)โหม่งเน้น ๆ ทำประตูให้ทีมขึ้นนำไปก่อนได้

  แต่กระนั้นอาโอโมริก็ไล่ตีเสมออย่างรวดเร็ว ในนาทีที่ 40 จังหวะสวนกลับ ซาซากิ กินจิ(ม.6) หลบรอดจากกับดักล้ำหน้าของทีมฝั่งตรงข้ามจนวิ่งทะลุแดนฝั่งขวาเข้าไปจนถึงพื้นที่เขตโทษ จากนั้นก็จ่ายนิ่ม ๆ ให้กับดันซากิ ริคุ(ม.6) ว่าที่นักเตะซัปโปโรซัดเข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงาม ดันซากิยิงทันทีโดยไม่มีการจับบอล การทำประตูของเขาช่วยทำให้ทีมอาโอโมริไล่ตามมาเป็นสกอร์ 1-1

  จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงครึ่งหลัง แม้จะเริ่มต้นด้วยการดวลแลกกันไปกันมาก็ตาม แต่เมื่อเข้าสู่นาทีที่ 63 โรงเรียนอาโอโมริก็เป็นฝ่ายออกนำ บัสเคส ไบรอน(ม.6) สับขาหลอกจากบริเวณฝั่งขวาจนเปิดลูกโยนเข้ามาให้ดันซากิใช้ขาขวาเตะลูกเน้นความแม่นยำเข้าชนเสาข้างขวาก่อนแล้วเข้าประตูไปอย่างงดงาม ส่งผลให้โรงเรียนอาโอยามะยามาดะนำไปด้วยคะแนน 2-1

  เลยทำให้โรงเรียนริวซึเคไซไดคาชิวะทำการเปลี่ยนตัวเพื่อเสริมเกมรุกให้หนักขึ้น ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายดันให้เซกิกาวะที่เป็นเซนเตอร์แบ็คให้ไปช่วยเกมรุกในแนวหน้าด้วย

  แต่กระนั้นโรงเรียนอาโอโมริก็เล่นเกมสวนกลับได้เป็นอย่างดี ในช่วงท้ายเกม โคมัตสึ เคย์โตะ(ม.6) ใช้จังหวะสวนกลับอย่างไม่เปลืองโอกาส เขาทำประตูที่ 3 ให้กับทีมเพื่อเป็นการตอกย้ำชัยชนะ จนกระทั่งหมดเวลาการแข่งขันก็เป็นทางฝั่งของโรงเรียนอาโอโมริยามาดะที่คว้าชัยไปด้วยคะแนน 3-1 ทำให้โรงเรียนได้แชมป์อีกครั้งในรอบ 2 ปี ส่วนทางโรงเรียนริวซึเคไซก็ได้ตำแหน่งรองแชมป์ 2 สมัยซ้อนไปแทน