【สดจากสนาม】การตกต่ำของเรอัลมาดริดนั้นเป็นผลจากประธานเปเรซโดยแท้... ผลต่างประตูได้เสีย "3 ลูก" คือความเลวร้ายสุดอันดับ 2 ในรอบ 60 ปี

2019年01月11日 エル・パイス紙

การยิงเพียง 26 ลูกเมื่อจบ 18 นัดนั้นคือสถิติต่ำสุดในรอบ 28 ปี

เมื่อ 2 ปีก่อนที่คว้าแชมป์ลาลีก้านั้น ตอนจบการแข่งขันนัดที่ 18 ทำไปได้ถึง 46 ประตู การเสีย CR7 ไปนั้น ผู้ที่จะเป็นดาวยิงประตูความหวังใหม่มีเพียงแต่วินิซิอุสเท่านั้นหรือ

(C)Getty Images

  การจมดิ่งลงของเรอัลมาดริดนั้นยังคงไม่หยุดหย่อน ฝั่งบริหารของสโมสรก็ตระหนักดีว่าช่วงการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นในฤดูร้อนที่ผ่านมานั้นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทีมอ่อนแอลงแบบนี้

  แม้ฤดูกาลก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ UEFA Champions League 3 สมัยซ้อนได้ก็ตาม แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็เห็นได้ว่าผลงานในเกมลีกนั้นตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ก็ออกจากสโมสรไป

  แต่กระนั้นประธานสโมสรอย่างฟลอเรนติโน่ เปเรซ กลับไม่ฟังความคิดเห็นของสต๊าฟฝ่ายเทคนิคและคนจากฝั่งสนามเลย เขาคิดว่าสามารถใช้ 3 กองหน้าอย่างคาริม เบนเซม่า, แกเรต เบลและมาร์โก้ อาเซนซิโอ้ได้ จึงทำให้แผนการณ์คว้าตัวหัวหอกคนใหม่มาเข้าร่วมทีมนั้นจึงต้องเลื่อนออกไป

  ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวนั้นได้ทำให้เกิดรอยร้าวขึ้นมาในสโมสร จนกระทั่งเป็นผลให้ต้องปลดกุนซืออย่างโลเปเตกีออก แล้วตั้งซานติอาโก้ โซลารี่ที่คุมทีมชุด B ให้ขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่แทนเพื่อขจัดปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

  แต่กระนั้นสภาพความลุ่ม ๆ ดอน ๆ ของทีมก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

  ประตูรวมที่ทีมทำได้เมื่อผ่านไป 18 นัดอยู่ที่ "26 ประตู" ซึ่งจัดว่าเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดที่เป็นรองเพียงแค่ "23 ประตู" ในฤดูกาล 1990-1991 เพียงเท่านั้น ส่วนผลต่างประตูได้เสียที่มีอยู่ 3 ลูกนั้น นับว่าย่ำแย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากปี 1999-2000 ที่เป็นผลต่างประตูได้เสีย 1 ลูก เพียงอย่างเดียว
  ผลอันดับดังกล่าวนั้นถือเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสโมสรในรอบ 60 ปี

  สภาพของทีมถดถอยลง นอกจากนั้นจำนวนผู้ชมที่เข้ามาชมการแข่งขันในสนามซานติอาโก้ เบอร์นาบิวก็ลดลงเช่นกัน นัดก่อนที่เจอกับ Real Sociedad นั้นผู้ชมยังมีไม่ถึง 54,000 คน จึงทำให้สนามที่จุได้สูงถึง 81,000 คนนั้นมีพื้นที่โหว่เยอะมากอย่างเห็นได้ชัด
 
  ท่ามกลางสภาพย่ำแย่เหล่านั้น บุคคลที่เป็นเหมือนดั่งดาวความหวังของแฟน ๆ คือศูนย์หน้าอายุ 18 ปี วินิซิอุส จูเนียร์ นั่นเอง การที่ได้ลงเล่นตำแหน่งตัวจริงในเกมที่เจอกับโซเซียดาดนั้นเขาก็เล่นได้อย่างมีพลัง แฟน ๆ ต่างก็ปรบมือให้การต้อนรัปเป็นอย่างดี

  แต่การที่ดาวเตะวัย 18 ปีผู้ลงเล่นลาลีก้ากับแชมป์เปี้ยนลีคได้ไม่ถึง 270 นาทีกลายมาเป็นความหวังให้กับแฟน ๆ ของสโมสรนั้น มันก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสภาพปัจจุบันของเรอัลมาดริดมันโคม่าขนาดไหน

  ประธานเปเรซยังคงตั้งใจที่จะเปลี่ยนผลัดรุ่นของตัวนักเตะต่อไป โดยมีการประกาศหลังจบการแข่งขันกับโซเซียดาดว่าได้ทำการคว้าตัว Brahim Díaz มาจากสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  จากแผงหน้าเดิมที่เป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้, เบนเซม่าและเบลนั้น อันที่จริงเรอัลมาดริดก็เป็นสโมสรที่เคยมีขุมกำลังนักเตะกองหน้าระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อัลบาโร่ โมราต้า, ฮาเมส โรดิเกรซ, อาเซนซิโอและอิซโก้ นอกจากนั้นก็ยังมีนักเตะสำรองอย่างมาเรียโน่ ดีอัซ, บราฮิม, วินิซิอุส, ลูคัส บุสเกซและอิซโก้ที่เป็น "ดาวรุ่ง" อีกด้วย แต่กระนั้นท้ายที่สุดแล้วความล้มเหลวก็ยังเป็นผลพวงจากตัวของประธานเปเรซอยู่ดี

  นอกจากนั้น ท่ามกลางภาวะย่ำแย่เช่นนี้ ทางสโมสรก็ประกาศแล้วว่าโทนี่ โครส ต้องพักยาวจากอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อขาซ้าย เห็นทีแบบนี้สภาพลุ่ม ๆ ดอน ๆ ของเรอัลมาดริดคงต้องดำเนินไปอีกพักหนึ่งอย่างแน่นอน

ข่าวโดย Diego Torres (หนังสือพิมพ์ El País/นักข่าวประจำเรอัลมาดริด)
แปลโดย ชิโมมุระ มาซายูกิ 
※Soccer Digest WEB คือผู้ถือลิขสิทธิ์แปลข่าวจากหนังสือพิมพ์ El País แห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น
 
แชร์กับเพื่อนๆ
Twitterで更新情報配信中

関連記事