【สดจากสนาม】「เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องวิ่งแทนที่ลีโอ」เหตุผลของมิดฟิลด์ที่ต้องเล่นอย่างทุ่มเทแทนที่ "เมสซี่ที่ไม่วิ่ง"

2018年12月24日 エル・パイス紙

ลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการเกือบ 90% นับตั้งแต่เข้าสโมสรในหน้าร้อนปี 2014

ราคิติช(ทางซ้าย)ผู้เล่นอย่างทุ่มเทนับตั้งแต่ที่คอยเกื้อหนุนเมสซี่นับตั้งแต่ย้ายเข้าสโมสร มีสโมสรไม่น้อยเลยที่หลงใหลทักษะของเขา

(C)Getty Images

  อิวาน ราคิติช ลงสนามทุกนัดในฤดูกาลนี้

  ราคิติชเข้าสโมสรในช่วงหน้าร้อนปี 2014 ในฐานะนักเตะสำรองของซาบี้และอิเนียสต้า แต่ถึงแม้จะมีการมาเยือนของนักเตะคู่แข่งอย่างทั้งอังเดร โกเมซ, เดนิส ซัวเรสและฟิลิปเป้ คูตินโญ่ก็ตาม แต่กระนั้นราคิติชก็กลายเป็นนักเตะกำลังหลักสำคัญที่ขาดไม่ได้ของทั้งสองกุนซืออย่างลูอิส เอนริเก้และเอร์เนสโต บัลเบร์เด้เลย

  ตอนยังสมัยอยู่กับเซบีย่านั้น ราคิติชประดุจดั่งราชา แต่เมื่อย้ายมาอยู่บาร์ซ่า เขาก็กลายเป็นนักเตะที่คอยสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมอาทิ ลีโอเนล เมสซี่ดุจดั่งเงาและได้รับคำชมอย่างมากมายก่ายกอง

  ราคิติชระบุว่า "เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องวิ่งแทนลีโอ ก็เพราะว่าเขาเป็นนักเตะที่ถึงขั้นนั้น" เขากล่าวตอบรับอย่างเรียบง่าย "บางทีก็สงสัยเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับอิวาน เขาเอาแต่วิ่งอย่างเดียวเลย สมแล้วล่ะที่เป็นมาคิน่า(ภาษาสเปนแปลว่าเครื่องจักร)" ซึ่งนั่นคือคำชื่นชมต่อตัวราคิติชโดยเคราร์ด ปีเก้ เพื่อนร่วมทีมนับถือความขยันขันแข็งของเขา

  ราคิติชฝึกเพิ่มเป็นพิเศษ เขาจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวนอกเหนือจากการฝึกกับทีม รวมทั้งยังมีการฝึกฝนที่บ้านของเขาที่เมือง Gab (ชานเมืองบาร์เซโลน่า) อีกด้วย ความขยันขันแข็งของเขานั้นกลายเป็นพื้นฐานของฟอร์มการเล่นในปัจจุบันนี้อย่างไม่ผิดแน่
  ซึ่งการที่ราคิติชได้ลงเล่นทุกนัดก็เป็นหลักฐานทางตัวเลขที่ชัดเจน

  แม้ราคิติชจะอยู่กับสโมสรเป็นปีที่ 5 ก็ตาม แต่เขาก็ลงเล่นทุกการแข่งขันให้กับบาร์ซ่าทั้งหมด 237 นัด คิดเป็น 89.4% มีเพียง 28 เกมเท่านั้นที่เขาไม่ได้ลงเล่น โดยนักเตะที่ลงในสนามรองจากเขาก็คือเมสซี่ที่ 231 นัดและเซร์ฆิโอ บุสเกตที่ 225 นัด

  การเล่นในสนามของฤดูกาลนี้ทั้งหมด 1,835 นาทีนั้น เป็นรองแค่นายทวารอย่างเดอ สเตเกนและเคราร์ด ปีเก้(1980 นาที) และ บุสเกต(1919 นาที) เพียงเท่านั้น เขาคือนักเตะตำแหน่งมิดฟิลด์ที่สร้างโมเมนตัมและผลงานให้กับทีมเป็นอย่างดี จนกลายเป็นตำแหน่งราคิติชที่ไม่มีใครอาจมาแทนที่เขาได้เลย

 ※ตัวเลขนับถึงการแข่งขันเมื่อจบนัดที่ 16 ของฤดูกาลเท่านั้น

  ราคิติชที่ถึงแม้อายุจะ 30 แล้วแต่ก็ยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นั้น เขาตกเป็นเป้าสายตาจากสโมสรหลายแห่งในยุโรปอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น PSG ยูเวนตุสและบาเยิร์นมิวนิก

  ถึงแม้จะมีข่าวเรื่องการย้ายไป PSG บ้างก็ตาม แต่เมื่อกุนซือบัลเบร์เด้ได้ตัวอาตูร์และอาทูโร่ วีดาลมานั้นสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป

  "เขาเป็นนักเตะที่รับมือกับโพซิชั่นนิ่งและทรานซิชั่นนิ่งได้ดี และยังมีระดับของความอุทิศและความเฉลี่ยวฉลาดในขั้นสูง" กุนซือกล่าวชมพลังความสามารถของตัวราคิติชเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ทราบได้ว่าด้วยปัญหาการเงินเรื้อรังในสโมสรนั้น บางทีอาจจะมีการพิจารณาเลย์อ๊อฟนักเตะเมื่อมีข้อเสนอแสนยิ่งใหญ่โผล่มาก็เป็นได้

  และเพื่อตอบรับความคาดหวังจากคนรอบข้างนั้น ในเกมนัดที่ 16 กับเลวานเต้ที่ราคิติชลงไปเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็คในครึ่งหลังนั้น จากนี้ไปเขาจะยังคงวิ่งทุ่มเททั่วทั้งสนามเพื่อสโมสรบาร์เซโลน่าเหมือนเดิม


ข่าวโดย จอร์ดี้ คิเชียโน่ (หนังสือพิมพ์ El País/นักข่าวประจำบาร์เซโลน่า)
แปลโดย ชิโมมุระ มาซายูกิ
※Soccer Digest WEB คือผู้ถือลิขสิทธิ์แปลข่าวจากหนังสือพิมพ์ El País แห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น
 

次ページ【VIDEO】อิเนียสต้ามอบเสื้อทีมโกเบให้ประธานบาร์โทมิวแห่งบาร์ซ่า

แชร์กับเพื่อนๆ
Twitterで更新情報配信中

関連記事