การแข่งขันนัดสุดท้ายของเจลีคจบลงในวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งในวันนั้นสโมสรวิสเซลโกเบก็ประกาศการคว้าตัวอดีตศูนย์หน้าทีมชาติสเปนอย่างดาวิด บีย่า มาเข้าร่วมทีมอย่างสายฟ้าผ่า
เดือนมีนาคมปีก่อนโกเบประกาศคว้าตัวลูคัส โพโดลสกี้ ส่วนในเดือนพฤษภาคมปีนี้ก็ประกาศคว้าตัวอังเดรส อิเนียสต้า เพราะฉะนั้นการคว้าตัวดาวิด บีย่านั้นจึงกลายเป็นนักเตะผู้คว้าแชมป์โลกคนที่ 3 ที่กำลังจะเข้ามาร่วมทีม
แม้บีย่าจะเริ่มต้นกิจกรรมในฐานะนักเตะของโกเบอย่างเป็นทางการในฤดูกาล 2019 ก็ตาม แต่การวาดลวดลายของเขาต่อจากนี้นั้นน่าสนใจมากเหลือเกิน
แต่โกเบก็ยังไม่หยุดที่จะคว้านักเตะบิ๊กเนมมาเข้าร่วมทีมต่อไป สื่ออิตาลี Calciomercarto ระบุว่า โกเบสนใจจะคว้าตัวอดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสเปนอย่างเชสก์ ฟาเบรกัส เข้ามาร่วมทีมให้ได้เช่นเดียวกัน ตัวของเชสก์ที่เป็นอดีตห้องเครื่องเก่าของบาร์เซโลน่านั้น ฤดูกาลนี้เขาไม่มีโอกาสลงเล่นให้กับเชลซีเท่าไรนัก (นับจนถึงวันนี้เขาได้ลงเตะในเกมพรีเมียร์ลีคเพียง 48 นาทีเท่านั้น เขาถือเป็นผู้เล่นชุดสำรองที่ใช้ในการแข่งบอลถ้วย) มิหนำซ้ำสัญญาของเขาก็จะหมดในมิถุนายนปีหน้านี้
ซึ่งทางสื่อยังรายงานอีกว่า "ถึงแม้โกเบจะได้ซุปเปอร์สตาร์มาแล้วถึง 2 คนก็ตาม แต่เท่านี้ก็ยังไม่เพียงพอ พวกเขาคิดจะคว้าตัวเชสก์มาให้ได้"
ต้องวัดกันที่ค่าเหนื่อย?

เชสก์ ฟาเบรกัส ที่กลายมาเป็นผู้เล่นชุดชิงถ้วยภายใต้การคุมของกุนซือซาร์รี่ แต่ถึงกระนั้นฝีมือของเขาก็ยังเข้าฝัก หากเข้ามาร่วมทีมโกเบล่ะก็ต้องกลายเป็นขุมพลังที่สำคัญอย่างแน่นอน
(C) Getty Images
หากโกเบสามารถคว้าตัวเชสก์มาได้จริง ก็จะเท่ากับโกเบจะมีนักเตะ 3 คนในชุดกระทิงดุที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ในปี 2010 มาเข้าร่วมทีม แต่แน่ล่ะว่าคู่แข่งที่จะคว้าตัวเชสก์นั้นไม่ได้มีน้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นสโมสรจากจีน แอตเลติโกมาดริดหรือลียงเป็นต้น แต่หนึ่งในทีมที่ต้องการตัวของเชสก์มาอย่างดุดันที่สุดนั้นก็คงหนีไม่พ้นสโมสรเอซีมิลานเป็นแน่
จากการรายงานของสื่อในอิตาลีหลายฉบับระบุว่า ทางเจ้าตัวเชสก์ตกลงปลงใจที่จะย้ายไปยังถิ่นมิลานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่รอตลาดซื้อขายนักเตะในเดือนมกราคมที่จะมาถึงแต่เพียงเท่านั้น จุดได้เปรียบของทางมิลานมีอยู่อีกหนึ่งเรื่องคือ Chief Executive คนปัจจุบันอย่าง Ivan Gazidis นั้นเคยทำงานอยู่ที่อาร์เซนอลมาก่อน ซึ่งในสมัยนั้นเขาก็มีสายสัมพันธ์กับตัวของเชสก์ ฟาเบรกัสเป็นอย่างดี การเจรจาต่อรองจึงไปด้วยความราบรื่น
แต่จากแหล่งข่าวก็ยังระบุว่า จริงอยู่ที่โอกาสที่โกเบจะคว้าตัวเชสก์ได้นั้นจะน้อยนิดก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้เลย นั่นก็เพราะว่าหากเชสก์ต้องย้ายไปที่มิลานนั้นค่าเหนื่อยที่เขาได้รับจะต้องลดลง ซึ่งทางหนังสือพิมพ์อิตาลี Gazzetta Di Parma ออกมาระบุว่า "สโมสรในญี่ปุ่นเสนอค่าเหนื่อยให้มากกว่ามิลาน" อีกด้วย
นอกจากนั้นทางตัวของเชสก์ก็ออกมาพูดหลังการแข่งขันยูโรป้าในเกมกับ PAOK ว่า "ตอนนี้ผมยังไม่ได้คุยกับใครทั้งนั้น" นั่นจึงมีความหมายว่าช่องว่างในการเจรจายังมีอยู่อีกมากมาย
"แน่นอนว่าในเดือนมกราคมนี้ผมก็พร้อมจะเซ็นสัญญาเช่นเดียวกัน ทีมที่ผมสนใจเหรอ? ผมคิดว่าคงมีหลายสโมสรที่สนใจผมอยู่ล่ะมั้งครับ แต่สิ่งที่ผมพูดได้ในตอนนี้คือ ผมจะยังคงอยู่ทีมนี้จนกว่าจะจบฤดูกาลครับ"
เชสก์ ฟาเบรกัสในวัย 31 ปีที่อยู่ในช่วงอายุซึ่งเลยจุดพีคมาแล้วก็ตาม แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคาดหวังว่าตัวเองจะสามารถโชว์ฟอร์มระดับแนวหน้าออกมาได้ เพราะฉะนั้นหากคำนึงถึงเรื่องนี้ล่ะก็ โอกาสที่เขาจะย้ายไปเอซีมิลานจึงมีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่กระนั้นก็ยังไม่อาจจะตัดความเป็นไปได้ที่จะกลับมาร่วมค้าแข้งกับเพื่อนเก่าอย่างอิเนียสต้าและบีย่าออกไปอีกด้วย
เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนี้น่าจับตาดูเป็นอย่างยิ่งเลย
จากการรายงานของสื่อในอิตาลีหลายฉบับระบุว่า ทางเจ้าตัวเชสก์ตกลงปลงใจที่จะย้ายไปยังถิ่นมิลานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่รอตลาดซื้อขายนักเตะในเดือนมกราคมที่จะมาถึงแต่เพียงเท่านั้น จุดได้เปรียบของทางมิลานมีอยู่อีกหนึ่งเรื่องคือ Chief Executive คนปัจจุบันอย่าง Ivan Gazidis นั้นเคยทำงานอยู่ที่อาร์เซนอลมาก่อน ซึ่งในสมัยนั้นเขาก็มีสายสัมพันธ์กับตัวของเชสก์ ฟาเบรกัสเป็นอย่างดี การเจรจาต่อรองจึงไปด้วยความราบรื่น
แต่จากแหล่งข่าวก็ยังระบุว่า จริงอยู่ที่โอกาสที่โกเบจะคว้าตัวเชสก์ได้นั้นจะน้อยนิดก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้เลย นั่นก็เพราะว่าหากเชสก์ต้องย้ายไปที่มิลานนั้นค่าเหนื่อยที่เขาได้รับจะต้องลดลง ซึ่งทางหนังสือพิมพ์อิตาลี Gazzetta Di Parma ออกมาระบุว่า "สโมสรในญี่ปุ่นเสนอค่าเหนื่อยให้มากกว่ามิลาน" อีกด้วย
นอกจากนั้นทางตัวของเชสก์ก็ออกมาพูดหลังการแข่งขันยูโรป้าในเกมกับ PAOK ว่า "ตอนนี้ผมยังไม่ได้คุยกับใครทั้งนั้น" นั่นจึงมีความหมายว่าช่องว่างในการเจรจายังมีอยู่อีกมากมาย
"แน่นอนว่าในเดือนมกราคมนี้ผมก็พร้อมจะเซ็นสัญญาเช่นเดียวกัน ทีมที่ผมสนใจเหรอ? ผมคิดว่าคงมีหลายสโมสรที่สนใจผมอยู่ล่ะมั้งครับ แต่สิ่งที่ผมพูดได้ในตอนนี้คือ ผมจะยังคงอยู่ทีมนี้จนกว่าจะจบฤดูกาลครับ"
เชสก์ ฟาเบรกัสในวัย 31 ปีที่อยู่ในช่วงอายุซึ่งเลยจุดพีคมาแล้วก็ตาม แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคาดหวังว่าตัวเองจะสามารถโชว์ฟอร์มระดับแนวหน้าออกมาได้ เพราะฉะนั้นหากคำนึงถึงเรื่องนี้ล่ะก็ โอกาสที่เขาจะย้ายไปเอซีมิลานจึงมีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่กระนั้นก็ยังไม่อาจจะตัดความเป็นไปได้ที่จะกลับมาร่วมค้าแข้งกับเพื่อนเก่าอย่างอิเนียสต้าและบีย่าออกไปอีกด้วย
เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนี้น่าจับตาดูเป็นอย่างยิ่งเลย