ทีมชาติญี่ปุ่น รุ่น U-19 สามารถประเดิมการแข่งขันได้อย่างสวยหรู
การแข่งขันทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์เอเชีย U-19 ที่จัดขึ้นในอินโดนีเซีย ทีมที่สามารถเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้นั้นจะได้ไปลงแข่ง World Cup รุ่น U-20 ที่จะจัดขึ้นที่เปรูในปีหน้า ซึ่งทางทีมชาติญี่ปุ่นก็ประเดิมสนามในการแข่งขันกรุ๊ปลีคได้อย่างสวยหรูด้วยการเอาชนะทีมชาติเกาหลีเหนือด้วยสกอร์ 5-2
แม้ทีมญี่ปุ่นจะทำประตูขึ้นนำได้ถึง 2 ลูกตั้งแต่ 19 นาทีแรกก็ตาม แต่ทีมเกาหลีเหนือก็ไม่ย่อท้อ ทำการทำเกมรุกสวนกลับจนตีเสมอได้ก่อนจบครึ่งแรก จนพอเข้าครึ่งหลังสถานการณ์อยู่ในช่วงทางตัน และผู้ที่ฝ่าวิกฤติได้นั้นคือหัวหอกดาวรุ่งอายุ 17 ปี คุโบะ ทาเคฟุสะ นั่นเอง เขาเตะ Free Kick ด้วยเท้าซ้ายพุ่งทะยานเข้าประตูไปได้อย่างงดงามด้วยระยะห่างถึง 25 เมตร! ซึ่งนั่นก็เป็นโมเมนตัมที่ทำให้ญี่ปุ่นเกิดไฟลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
ในช่วงท้ายเกม Sin Kwang-sok เหยียบหน้าอกของ โกเกะ ยูตะ เข้าจนได้รับใบแดงไปและภายหลังจากนั้นญี่ปุ่นก็ทำประตูเพิ่มได้อีก 2 ลูกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเป็นผลให้คว้าชัยชนะด้วยสกอร์ 5-2 อย่างงดงาม
「ลูกเตะสุดอลังการ!」「ญี่ปุ่นคืนชีพ」สื่อต่างชาติชื่นชมลูกยิงสุดสวยของ คุโบะ ทาเคฟุสะ!
カテゴリ:日本代表
2018/10/20
「เจ้าหนูมหัศจรรย์วัย 17 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม」

สามารถยิงประตูสุดสวยได้ในช่วงสำคัญและนำทีมชาติญี่ปุ่นรุ่น U-19 คว้าชัยได้ คุโบะจะสามารถทำประตูอย่างต่อเนื่องจนจบทัวร์นาเมนต์ได้หรือไม่
ภาพโดย: ซาโต้ ฮิโรยูกิ
ซึ่งทางผู้สื่อข่าว Gabriel Tan แห่ง FOX SPORTS ASIA ก็ได้รายงานถึงการแข่งขันในนัดนี้ว่า
"ทีมชาติญี่ปุ่นสามารถเอาตัวรอดจากการกดดันหนักของเกาหลีเหนือได้ ถึงจะโดนไล่ตีเสมอได้ก็ตาม แต่ก็เอาตัวรอดได้และคว้าชัยชนะไป ถือเป็นการประเดิมสนามทัวร์นาเมนต์ได้อย่างสวยหรู ไม่พ่ายแพ้ต่อการกดดันที่หนักหน่วงของเกาหลีเหนือและโชว์ความเหนือชั้นได้ในช่วงครึ่งหลัง การที่ทีมชาติญี่ปุ่นรุกทั้งเกมจนผลการแข่งขันจบลงที่ 5-2 นั้นน่าชื่นชมเหลือเกิน"
และสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นที่สุดคือลูกยิงของคุโบะนั่นเอง
"ลูกยิงของ ทาเคฟุสะ คุโบะ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ลูกเตะที่ปลุกทีมชาติญี่ปุ่นผู้หลับใหลให้ตื่นขึ้นมาได้จากฟรีคิคระยะ 30 หลา เจ้าหนูมหัศจรรย์วัย 17 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม"
ทีมชาติญี่ปุ่นจะเจอกับทีมชาติไทยไทยในวันที่ 22 ส่วนวันที่ 25 จะเจอกับอิรัค กล่าวได้ว่าจากนี้ต่อไปอีก 16 วันข้างหน้านี้ทีมชาติญี่ปุ่นจะต้องสู้ถึง 6 เกม ถือว่าเป็นงานที่โหดเอาเรื่อง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่จะสื่อให้เห็นว่าทีมชาติญี่ปุ่นรุ่น U-19 นั้นจะสามารถบริหารองค์กรจนเอาตัวรอดไปจนถึงหยดสุดท้ายได้หรือไม่