เสียงชมนักเตะศูนย์หน้าชาวญี่ปุ่นจากฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงกับเกมที่เผชิญหน้ากับสโมสร Manchester United อันลือลั่น

  การแข่งขันพรีเมียร์ลีคนัดที่ 8 ของฤดูกาลในวันที่ 6 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น สโมสร Manchester United เปิดบ้านรับการมาเยือนของนิวคาสเซิลที่โยชิโนรุ มุโต สังกัดอยู่ นี่คือประตูลูกแรกที่มุโตทำได้ในพรีเมียร์ลีคตั้งแต่ย้ายเข้ามายังสโมสรแห่งนี้ จากการยิงด้วยเท้าข้างซ้ายอันเฉียบคมฝ่ามือของนายทหาร David De Gea เข้าไปได้ในนาทีที่ 10 ในช่วงเวลาที่ทีมกำลังได้เปรียบจากการขึ้นนำก่อน 1 ลูก

  แม้ในครึ่งหลังทีมจะเสียไป 3 ประตูเป็นผลให้ได้รับความพ่ายแพ้กลับบ้านไปด้วยสกอร์ 3-2 ก็ตาม แต่ความเจิดจรัสของมุโตที่โชว์ฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมในสนาม Old Trafford นั้นยังคงเป็นที่เลื่องลืออย่างจำเป็นต้องพูดถึงให้ได้

  หลังการแข่งขันจบลง กุนซือของสโมสรนิวคาสเซิล ราฟาเอล เบนิเตซให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัวของมุโตว่า "จำเป็นต้องให้เวลากับเขาอีกสักหน่อยถึงจะทำให้เขาสงบนิ่งสุขุมได้" ส่วนทางสื่อท้องถิ่น The Evening Chronicle ก็กล่าวชมว่า "เป็นประตูที่แสนงดงาม"

  แม้หนังสือพิมพ์จะลงบทสรุปของการแข่งขันว่า "ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นหลังเกมผ่านไป 1 ชั่วโมงก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ความเป็นนิวคาสเซิลในตอนนี้ดี" ก็ตาม แต่ก็ยังเขียนสกู๊ปถึง "5 สิ่งที่ควรเรียนรู้" ออกมาอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเรื่องของมุโตระบุเอาไว้

  "ก่อนเริ่มการแข่งขันเบนิเตซเตรียมความพร้อมของทีมโดยที่เขาไม่เฝ้ารอว่ามุโตจะสามารถเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อเรียกความมั่นใจก่อนลงแข่งได้ทันหรือไม่ เพียงแต่การตัดสินใจของเขานั้นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่เพียงแต่มุโตสามารถทะลวงกองหลัง 4 คนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและทำประตูไปได้เท่านั้น ในช่วงตลอดเวลาที่อยู่ในสนามก็ยังแสดงความเป็นเจ้าหนุ่มมหัศจรรย์ออกมาแม้จะเจอกับแมนยูก็ตาม"

  แม้สื่อ The Evening Chronicle จะชมมุโตยกใหญ่ก็ตาม แต่กับสโมสรนิวคาสเซิลที่ฤดูกาลนี้ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น สื่อจึงทำการ "ฟาดแส้แห่งความรัก" และลงข่าววิจารณ์ต่อว่า

  "จำเป็นต้องมีการวางแผนเกมออกมาให้ชัดเจนยิ่งกว่านี้ เกมนัดหน้ากับสโมสร Brighton นั้นคือเกมที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ความย่อยยับใน 20 นาทีท้ายในเกมของแมนยูถือเป็นสัญลักษณ์ของฤดูกาลนี้ที่ดี
  สาลิกาดงที่กระพือปีกพั่บ ๆ เมื่อโดนปิศาจแดงที่ไล่ตาม 2 ลูกรุกหนักในช่วงท้ายนั้น ท้ายที่สุดแล้วก็โดนจับลงหม้อไปทำเป็นสตู ของแบบนี้ไม่ควรจะมีเกิดขึ้นอีกต่อไป

  สิ่งที่ทีมจำเป็นต้องแก้ไขที่สุดในตอนนี้คือการดึงเอาจุดเด่นของสโมสรออกมา แล้วชูจุดแข็งให้เด่นชัด สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมกับแมนยูที่ควรเอาไปใช้ต่อในการแข่งขันนัด ๆ ถัดไปนั้นคือโปรเซสของเกมรุกที่ทำให้ทีมขึ้นนำได้ มันไม่ใช่เรื่องแค่ของการจัดเป็นรายตัวบุคคล แต่ต้องให้เป็นระบบทั้งทีม ขอให้ตั้งสติมองว่า Brighton ก็เป็นเหมือนทีมใหญ่อีกทีมหนึ่งและตั้งใจจะทำประตูกับทีมนี้ให้ได้ เพียงเท่านี้ก็น่าจะเอาชนะได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรแล้ว"

  นิวคาสเซิลที่อยู่ในช่วงฟอร์มย่ำแย่จากการไม่ชนะใครมา 8 นัดต่อเนื่องตั้งแต่เปิดฤดูกาลนั้น สโมสรสาลิกาดงจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้หรือไม่? หลังจบการช่วง International Week และทีมต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ Brighton ซึ่งเป็นนัดที่ 9 ของฤดูกาล น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่พิสูจน์ฝีมือที่แท้จริงของนิวคาสเซิลในตอนนี้ได้เลย