เวลาท้องถิ่นศึกพรีเมียร์ลีคนัดที่ 8 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเปิดบ้านรับการมาเยือนของสโมสรนิวคาสเเซิลและพลิกชนะไปด้วยสกอร์ 3-2 อย่างงดงาม

  แม้แมนยูจะประสบปัญหาหนักจากการโดนออกนำ 2-0 ตั้งแต่ 10 นาทีแรกเลยก็ตาม แต่ในนาทีที่ 70 Juan Mata ก็ทำประตูตีไข่แตกจากลูก Free Kick แล้วในนาทีที่ 76 Anthony Martial ก็ยิงประตูตีเสมอให้กับทีมจนเป็นสกอร์ 2-2 แล้วก่อนจะต่อเวลาพิเศษ Alexis Sanchez ก็โหม่งทำประตูจนทำให้ทีมพลิกชนะไปได้สุดงดงาม

  การแข่งขัน 7 นัดแรกของสโมสรแมนยูในฤดูกาลนี้ที่ผลชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 3 มีเพียง 10 แต้มนั้นนับว่าย่ำแย่ที่สุดในรอบ 29 ปีของสโมสรจนอยู่ในสถานการณ์ที่ไฟลนก้น แม้บรรยากาศไม่สู้ดีจะคุกกรุ่นทั่วสโมสรก็ตาม แต่ชัยชนะในนัดนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการคืนชีพจากความตายเลยก็ว่าได้
  

  หลังจบการแข่งขันข่าวการปลดกุนซือก็อันตรทานหายไป ทางกุนซือของทีมอย่างโจเซ่ มูรินโญ่ ก็ให้สัมภาษณ์กับทางสื่ออังกฤษอย่าง BT Sports ว่าเขามีส่วนรับผิดชอบกับการ "Slow Start" ของทีมและพูดอย่างหนักแน่นว่า "พวกเราคู่ควรที่จะได้รับชัยชนะ" ออกมา

  "การที่ทีมตามหลังอยู่ 2 ลูกแล้วเข้าสู่ช่วงพักครึ่งนั้นไม่สามารถมองสถานการณ์ดังกล่าวในแง่ดีได้ เพียงแต่ว่าวันนี้พวกเราสู้ด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วย motivation แม้การแข่งขันจะจบลงด้วยสกอร์ 2-2 ก็ตามแต่สถานการณ์โดยรอบก็ดีขึ้นกว่าเดิม แล้วผมก็คิดว่าในท้ายที่สุดทีมต้องชนะได้ ซึ่งพวกเราก็คู่ควรกับชัยชนะในนัดนี้แล้ว

  ที่สำคัญกองเชียร์หรือเหล่าแฟนในสโมสรนั้นยอดเยี่ยมมาก แม้จะจบครึ่งแรกด้วยการที่ทีมตามหลังก็ตามแต่ก็ยังคงตะโกนร้องเพลงและพูดชื่อของสโมสรต่อไป แฟน ๆ ต่างก็ส่งเสียงให้กำลังใจและกระตุ้นให้รู้ว่าชัยชนะมีความสำคัญมากขนาดไหน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่แสดงออกว่าพวกเขารักในสโมสรเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนั่นคือหลักฐานที่บอกว่าพวกเราแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ผมรู้สึกซาบซึ้งมากจริง ๆ"

  เกี่ยวกับข่าวที่มูรินโญ่จะโดนปลดในเร็ววันเร็วคืนนั้น
  "ผมยังมีสัญญาอยู่ถึงเดือนกรกฏาคมปี 2020 แต่ผมยังไม่ได้หันปากกระบอกปืนใส่สโมสร" 
  เขากล่าวออกมาเช่นนั้นนอกจากนั้นก็ยังพูดถึงเหล่าสื่อที่ตีข่าวอีกว่า

  "ผมรับคำติชมมาในระดับหนึ่งแล้ว อันที่จริงผมก็ออกจะชอบเรื่องเหล่านั้นด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าในช่วงหลังมานี้มันมีมากจนเกินไป เบื้องหลังของความเป็นผู้จัดการที่ดีก็ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ ซึ่งหลายอย่างมันก็มากเกินกว่าที่มนุษย์จะทนรับได้ ราวกับว่าถูกทดสอบความเป็นมนุษย์เสียด้วยซ้ำไป แต่สำหรับผมเหรอ? ผมไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น แม้จะรู้สึกเศร้าแต่ก็เป็นผู้ใหญ่ ผมสามารถรับมือได้

  ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่า ถ้าพรุ่งนี้ลอนดอนฝนตกก็เป็นความผิดของผม ถ้าผู้คนไม่ชอบ Brexit นั่นก็เป็นความผิดชอบผมอีก ก็ประมาณนั้น ผมต้องรับมือกับทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้

  ในแวดวงฟุตบอลในปัจจุบันนี้มีการตำหนิด่าทอที่พุ่งเป้าไปยังบุคคลเพียงคน ๆ เดียวมากเกินไป แต่ว่านั่นก็เป็นชีวิตของผม นี่คืองานที่ผมรัก และผมจะรักจนถึงวันสุดท้าย แม้มันจะลำบากไม่น้อยเลยก็ตาม"

  จากการแถลงข่าวหลังจบการแข่งขันในเกมนี้นั้น มูรินโญ่ก็รู้ดี ต่อให้ผลงานไม่ออกมาเป็นแบบนี้เจ้าตัวก็ทราบถึงกระแสข่าวที่มีต่อตัวเองเป็นอย่างดี ก็ไม่ทราบได้เหมือนกันว่าในอนาคตการตำหนิตัวของเขาอย่างรุนแรงนั้นจะยังคงมีต่ออีกหรือไม่ 

  และแล้วกับกุนซือผู้มากความสามารถของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้น เขาจะสามารถฝ่าฟันปัญหาเหล่านี้ไปได้หรือไม่กันแน่