Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • ผู้ช่วยฮิโรชิมะในภาวะวิกฤติคือฮีโร่เมืองไทย! เหตุผลที่ธีรศิลป์เหมาะกับการเป็นคู่หูของแพทริคที่สุดคือ...

ผู้ช่วยฮิโรชิมะในภาวะวิกฤติคือฮีโร่เมืองไทย! เหตุผลที่ธีรศิลป์เหมาะกับการเป็นคู่หูของแพทริคที่สุดคือ...

カテゴリ:Jリーグ

志水麗鑑(サッカーダイジェスト)

2018/10/01

โดยเฉพาะในช่วงที่แพทริคโดนประกบหนักแบบนี้

ธีรศิลป์ผู้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบ 10 นัด จากฟอร์มในนัดที่เจอกับกัมบะโอซาก้านี้ สามารถคาดหวังถึงเกมการแข่งขันในนัดที่เหลือได้เลย

ภาพโดย: โทคุฮาระ ทาคาโมโตะ

画像を見る

[J1 การแข่งขันนัดที่ 28] G OSAKA 1-0 Hiroshima/29 กันยายน/Panasonic Stadium Suita
 
  ฮิโรชิมะแพ้ 0-1 เป็นผลให้ร่วงจากจ่าฝูงจากการไม่ชนะมา 3 นัดต่อเนื่อง
 
  ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สะกดคำว่าชนะไม่เป็นมาถึง 3 นัดนั้นสืบเนื่องมาจาก "การผนึกแพทริค" นั่นเอง นัดที่ 26 แพ้โทสุไป 0-1 นัดที่ 27 เสมอ FC Tokyo 1-1 และล่าสุดนัดที่ 28 แพทริคก็โดนประกบหนักจนไม่สามารถโชว์การเล่นลูกกลางอากาศที่ยอดเยี่ยมของเขาได้เลย
 
  แม้ในนัดกับ FC Tokyo แพทริคสามารถทำประตูได้ก็ตาม แต่ก็เป็นการทำประตูจากขาของแพทริคที่ยื่นไปขวางลูกเตะที่จะเคลียร์ออกจากในเขตโทษจนสะท้อนเข้าประตูไปเท่านั้น ที่สำคัญในจังหวะที่ทีมเสียประตูไป นั่นก็เกิดจากการที่เขาถูกกองหลังแย่งลูกแล้วส่งผลให้ทำเกมสวนกลับจนเสียประตูไปนั่นเอง
 
  สิ่งที่น่าสงสัยที่สุดนั้น บางทีแพทริคอาจจะโดน Center Back ของฝั่งตรงข้ามเข้าชาร์จหนักจนต้องเล่นเกมจากด้านข้างแทน และนั่นก็เป็นผลโมเมนตัมเปลี่ยนไป จนทำให้แพทริคไม่สามารถลอยตัวโหม่งลูกได้ไม่เยอะเทียบเท่ากับครึ่งแรกเลยก็ว่าได้

  ด้วยสถานการณ์ที่ยังคงเป็นเช่นนี้ จึงทำให้คู่หูอีกหนึ่งกองหน้าที่ต้องร่วมงานกับแพทริคนั้นจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาจะเป็นการเล่นแบบ Pressing สูงจากแถวหน้าสุด เลยใช้ วาตาริ ไดคิ หรือ คุโด้ มาซาโตะ ในการเล่นตัวจริงแทน จากนั้นในครึ่งหลังก็เปลี่ยนให้ธีรศิลป์ลงมาเล่น ซึ่งนี่คือแบบแผนที่ใช้ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา
 
  แพทริคจะเป็นหน้าเป้าเพื่อทำให้ทั้งวาตาริและคุโด้ทำเกมรุกได้อย่างหนำใจ เพียงแต่ภายในสภาพที่แพทริคโดนปิดผนึกแบบนี้ จึงจำเป็นต้องมีกองหน้าอีกคนที่มีความแข็งแกร่งและสามารถจบสกอร์ด้วยตัวเองได้ โดยในความหมายนั้นจึงทำให้ธีรศิลป์มีความสามารถในด้านดังกล่าวสูงกว่าทั้งสองคนอย่างมากโข จากความสามารถในการทำประตูทั้งหมด 5 ลูกสูงเป็นอันดับ 2 ของทีมนั่นเอง
 
  ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ธีรศิลป์ที่ได้ลงเป็นตัวจริงในรอบ 10 นัดเขาก็สามารถแสดงศักยภาพออกมาให้ได้เห็นในนัดที่เจอกับกัมบะโอซาก้า โดยเฉพาะในนาทีที่ 14 จังหวะที่ธีรศิลป์สามารถเบียดการแย่งลูกกลางอากาศจนทำให้ลูกบอลตกใส่กลางหลังของกองหลังฝั่งตรงข้ามแล้วกระดอนไปยังแพทริค จากนั้นแพทริคก็จ่ายทะลุให้ธีรศิลป์ที่วิ่งหลุดหลังกองหลังไปจนเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตูของฝั่งตรงข้ามได้
 
  ธีรศิลป์ระบุว่า "ตอนแรกตั้งใจว่าจะเล็งไปที่เสาไกล แต่จับบอลได้ไม่ดีเท่าไรนักจึงทำให้มุมมันเหลือน้อย" เขาพูดออกมาด้วยความเจ็บใจกับการที่ลูกยิงของเขาถูกผู้รักษาประตูใช้เท้ากันเอาไว้ได้ "เสียดายมากเลยครับที่มีโอกาสดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตูแล้วไม่สามารถจบสกอร์ได้" แม้ธีรศิลป์จะพูดออกมาเช่นนั้นก็ตาม แต่ทักษะของเขาที่สามารถพาลูกไปคนเดียวแล้วจบสกอร์ได้แบบนั้นก็เป็นอะไรที่สร้างความหวาดกลัวให้กับกองหลังฝั่งตรงข้ามอยู่ไม่น้อยเลย
 
  นอกจากนั้นในเกมนี้ธีรศิลป์ยังทำหน้าที่ในฐานะตัวพักบอลและปั้นเกมได้อย่างดีเลิศ "เมื่อมีกองหน้าสองคน คนหนึ่งเล็งจากด้านหลัง ส่วนอีกคนก็ต้องคอยปั้นเกมและพักบอล ถ้าเป็นแบบนี้มันจะทำให้สามารถนำเอาเอกลักษณ์ของตัวนักเตะออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งผมตั้ง mind set ให้เป็นแบบนั้นในตลอดทั้งเกมครับ" ธีรศิลป์กล่าวถึงการประสานงานของเขากับแพทริคในบทบาทการเป็น "กองหน้านักปั้น" ที่ทำงานร่วมกับ "กองหน้าตัวเป้า" เอาไว้ได้อย่างน่าคาดหวัง
 
  แม้การแข่งขันนัดนี้จะจบลงโดยไม่มีประตูเกิดขึ้นก็ตาม แต่ฟอร์มของธีรศิลป์ในเกมที่เจอกับกัมบะโอซาก้านั้น เป็นเหมือนประกายแสงส่องสว่างกับฮิโรชิมะในภาวะวิกฤติเลยก็ว่าได้ มาดูกันว่าฮีโร่เมืองไทยจะคว้าชัยให้กับทีมได้หรือไม่ อยากเห็นการทำประตูของเขาเหลือเกิน
 
ข่าวโดย : ชิมิซึ โยชิอากิ (Soccer Digest Editorial Desk)

Facebookでコメント