ในเวลาเต็ม 90 นาที “ช่วงเวลาที่ได้เล่นจริง” นั้นเฉลี่ยเพียงแค่ 50 นาที 4 วินาที
ยอดกุนซือแห่งเกตาเฟ่ เลือกจะไม่ใช้ชิบาซากิ แต่กลับใช้ Center Back อย่างเจเน่เพื่ออุดรูรั่วนั้นทั้งที่ผู้เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรับจะไม่สามารถลงเล่นได้ในการแข่งขันนัดถัดไปก็ตาม
(C)REUTERS/AFLO
แนวการเล่นแบบเน้นการตั้งรับของเกตาเฟ่ กำลังเพิ่มความสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นฤดูกาล
โดยกลยุทธ์ของโฆเซ่ บอร์ดาลาส ผู้ซึ่งกำลังเข้าสู่ปีที่สามของการเป็นกุนซือให้กับสโมสรเกตาเฟ่นั้นมีความเด่นชัดมากขึ้น หลังจากการแข่งขันนัดที่ 4 ของลาลีก้าได้จบไป ทีมของเขามีสถิติการทำฟาล์วถึง 86 ครั้ง และมีใบเหลืองถึง 17 ใบ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของลีกเลยทีเดียว และในส่วนของใบเหลืองรายบุคคลนั้น เจเน่ ผู้เป็นเซ็นเตอร์แบ็คคนสำคัญของเกตาเฟ่นั้น มีใบเหลืองติดตัวอยู่ถึง 4 ใบ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากสุดในลีกเช่นกัน
รูปแบบการเล่นบอลโต้ตอบจากจังหวะของฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นสไตล์การเล่นของเกตาเฟ่นั้น เวลาเฉลี่ยในการเล่น 1 นัดนั้น มีเพียงแค่ 50 นาที 4 วินาที หรือเรียกได้ว่าเป็น Actual Playing Time ( ช่วงเวลาที่ได้เล่นจริง ) ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก ๆ หรือก็คือ ช่วงเวลาที่เกมหยุดลงเพราะมีการฟาล์วเกิดขึ้น
นั่นจึงหมายความว่า ช่วงเวลาที่ลูกบอลหยุดนิ่งนั้นกินเวลาไปเกือบครึ่งของเวลาเต็ม 90 นาทีเลยทีเดียว และแน่นอน นอกจากลาลีก้าแล้วนั้น ยังมีข้อมูลของทีมที่มี Actual Playing Time น้อยที่สุดของแต่ละลีกดังของยุโรป ประกอบไปด้วย โอลิมปิก มาร์กเซยจากลีกเอิง ( 50 นาที 58 วินาที ) โวล์ฟสบวร์กจากบุนเดสลีกา ( 51 นาที 8 วินาที ) บอร์นมัธจากพรีเมียร์ลีก ( 51 นาที 23 วินาที ) และสปัลจากเซเรีย อา (52 นาที 45 วินาที )
โดยกลยุทธ์ของโฆเซ่ บอร์ดาลาส ผู้ซึ่งกำลังเข้าสู่ปีที่สามของการเป็นกุนซือให้กับสโมสรเกตาเฟ่นั้นมีความเด่นชัดมากขึ้น หลังจากการแข่งขันนัดที่ 4 ของลาลีก้าได้จบไป ทีมของเขามีสถิติการทำฟาล์วถึง 86 ครั้ง และมีใบเหลืองถึง 17 ใบ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของลีกเลยทีเดียว และในส่วนของใบเหลืองรายบุคคลนั้น เจเน่ ผู้เป็นเซ็นเตอร์แบ็คคนสำคัญของเกตาเฟ่นั้น มีใบเหลืองติดตัวอยู่ถึง 4 ใบ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากสุดในลีกเช่นกัน
รูปแบบการเล่นบอลโต้ตอบจากจังหวะของฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นสไตล์การเล่นของเกตาเฟ่นั้น เวลาเฉลี่ยในการเล่น 1 นัดนั้น มีเพียงแค่ 50 นาที 4 วินาที หรือเรียกได้ว่าเป็น Actual Playing Time ( ช่วงเวลาที่ได้เล่นจริง ) ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก ๆ หรือก็คือ ช่วงเวลาที่เกมหยุดลงเพราะมีการฟาล์วเกิดขึ้น
นั่นจึงหมายความว่า ช่วงเวลาที่ลูกบอลหยุดนิ่งนั้นกินเวลาไปเกือบครึ่งของเวลาเต็ม 90 นาทีเลยทีเดียว และแน่นอน นอกจากลาลีก้าแล้วนั้น ยังมีข้อมูลของทีมที่มี Actual Playing Time น้อยที่สุดของแต่ละลีกดังของยุโรป ประกอบไปด้วย โอลิมปิก มาร์กเซยจากลีกเอิง ( 50 นาที 58 วินาที ) โวล์ฟสบวร์กจากบุนเดสลีกา ( 51 นาที 8 วินาที ) บอร์นมัธจากพรีเมียร์ลีก ( 51 นาที 23 วินาที ) และสปัลจากเซเรีย อา (52 นาที 45 วินาที )
การเล่นแบบเน้นการตั้งรับนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และทำให้เกตาเฟ่สามารถเก็บคลีนชีทได้ถึง 3 นัด จาก 4 นัดเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว ที่เก็บคลีนชีทได้ 13 นัดแล้ว นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีขึ้นมาก
ดีเอโก้ ซิเมโอเน ผู้จัดการทีมของสโมสรแอตเลติโก้ มาดริดได้กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อทีมเกตาเฟ่ ก่อนที่จะได้เจอกันในการแข่งขันนัดที่ 5 ไว้ว่า "พวกเขาเป็นทีมที่แกร่งเลยล่ะ"
ในด้านของ บอร์ดาลาสก็ได้ตอบรับด้วยความคิดเห็นนี้ในแง่บวกว่า "เพราะว่าโชโล่( ชื่อเล่นของซิเมโอเน่ )เป็นคนแบบนั้น เพราะอย่างนั้นเขาคงหมายถึงว่า ทีมของเราเป็นทีมที่ดุดัน และเล่นเป็นระบบได้ดีนั่นแหล่ะครับ"
การที่จะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งการเล่นเกมตั้งรับนั้น ทำให้เกิดความเห็นที่แตกต่างต่อกุนซืออย่างบอร์ดาลาสเพราะเขาไม่สามารถหาตำแหน่งลงให้กับ ผู้เล่นเพลย์เมกเกอร์อย่าง ชิบาซากิ กาคุ ได้ และท่ามกลางเสียงตอบรับของคนรอบข้างเหล่านั้น เขาก็ได้แสดงออกอย่างไม่สนใจว่า "ไม่ว่าใครจะว่าอะไรก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ขอแค่อย่าลืมเรื่องที่ว่า เกตาเฟ่เป็นเพียงสโมสรเล็ก ๆ เท่านั้น พวกเราเพียงแค่ทำให้ดีที่สุดที่จะทำได้ก็เท่านั้น"
ต่อจากนี้ไป เกตาเฟ่คงจะฝ่าฟันการแข่งขันด้วยการหยุดเวลาการแข่งขันให้ได้นานที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้เพื่อให้กลยุทธ์ของกุนซือบอร์ดาลาสนั้นแสดงผลออกมาได้อย่างเต็มที่ การทำให้ช่วงเวลา Out Of Play เพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีก็จะมีน้อยลง และสิ่งนี้นี่เอง ที่จะเป็นสมการสู่ชัยชนะของเกตาเฟ่นั่นเอง
ข่าวโดย Gorka Pérez Garay
แปลโดย ชิโมมูระ มาซายูกิ
※ทางเว็บไซต์ SOCCER DIGEST คือผู้ถือลิขสิทธิ์การแปลข่าวและเผยแพร่ข่าวจากหนังสือพิมพ์ El País แต่เพียงผู้เดียวในญี่ปุ่น
ดีเอโก้ ซิเมโอเน ผู้จัดการทีมของสโมสรแอตเลติโก้ มาดริดได้กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อทีมเกตาเฟ่ ก่อนที่จะได้เจอกันในการแข่งขันนัดที่ 5 ไว้ว่า "พวกเขาเป็นทีมที่แกร่งเลยล่ะ"
ในด้านของ บอร์ดาลาสก็ได้ตอบรับด้วยความคิดเห็นนี้ในแง่บวกว่า "เพราะว่าโชโล่( ชื่อเล่นของซิเมโอเน่ )เป็นคนแบบนั้น เพราะอย่างนั้นเขาคงหมายถึงว่า ทีมของเราเป็นทีมที่ดุดัน และเล่นเป็นระบบได้ดีนั่นแหล่ะครับ"
การที่จะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งการเล่นเกมตั้งรับนั้น ทำให้เกิดความเห็นที่แตกต่างต่อกุนซืออย่างบอร์ดาลาสเพราะเขาไม่สามารถหาตำแหน่งลงให้กับ ผู้เล่นเพลย์เมกเกอร์อย่าง ชิบาซากิ กาคุ ได้ และท่ามกลางเสียงตอบรับของคนรอบข้างเหล่านั้น เขาก็ได้แสดงออกอย่างไม่สนใจว่า "ไม่ว่าใครจะว่าอะไรก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ขอแค่อย่าลืมเรื่องที่ว่า เกตาเฟ่เป็นเพียงสโมสรเล็ก ๆ เท่านั้น พวกเราเพียงแค่ทำให้ดีที่สุดที่จะทำได้ก็เท่านั้น"
ต่อจากนี้ไป เกตาเฟ่คงจะฝ่าฟันการแข่งขันด้วยการหยุดเวลาการแข่งขันให้ได้นานที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้เพื่อให้กลยุทธ์ของกุนซือบอร์ดาลาสนั้นแสดงผลออกมาได้อย่างเต็มที่ การทำให้ช่วงเวลา Out Of Play เพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีก็จะมีน้อยลง และสิ่งนี้นี่เอง ที่จะเป็นสมการสู่ชัยชนะของเกตาเฟ่นั่นเอง
ข่าวโดย Gorka Pérez Garay
แปลโดย ชิโมมูระ มาซายูกิ
※ทางเว็บไซต์ SOCCER DIGEST คือผู้ถือลิขสิทธิ์การแปลข่าวและเผยแพร่ข่าวจากหนังสือพิมพ์ El País แต่เพียงผู้เดียวในญี่ปุ่น