ภายหลัง J-League นัดที่ 27 ของฤดูกาล จบสิ้น ทางเราได้เข้าไปสัมภาษณ์กองหลังสัญชาติไทยแห่งทีมโกเบ ธีราทร บุญมาทัน โดยทันที สีหน้าของเขาในวันนี้ไม่ค่อยแจ่มชัดเท่าไรนัก
 
  สภาพของทีมโกเบในวันนี้นั้น ทีมขาดมิดฟิลด์อย่างอังเดรส อิเนียสต้าไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บจึงทำให้ปั้นเกมไม่ขึ้นเป็นผลให้พ่ายแพ้ไป 0-4 อีกทั้งแผนในวันนี้คือการเล่นแบบ 3-5-2 ที่มิตะ ฮิโรทากะถูกส่งให้ไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ริมเส้นฝั่งซ้ายโดยที่เขาเล่นไม่ค่อยเข้าระบบนัก สาเหตุที่เขาตั้งใจขอเปลี่ยนตัวออกไปเองนั้นอาจจะเป็นเพราะด้วยสาเหตุนี้ก็เป็นได้
 
  อยากจะรู้เหลือเกินว่าธีราทรตัวแนททีมชาติไทยที่มักจะถูกมอบหมายตำแหน่ง "กัปตันทีม" นั้น เขาคิดอย่างไรกับช่วงเวลาครึ่งปีที่ได้ "ตัดสินใจ" ย้ายมาเล่นในเจลีค
  วันนี้ เรามีบทสัมภาษณ์ของกองหลังอย่างไดสุเกะ นาสึ ที่ย้ายมายังสโมสรโกเบในฤดูกาลเดียวกันเกี่ยวกับ "ใบหน้าที่แท้จริงของธีราทร" อีกด้วย
 
 
――ในสายตาของเพื่อนร่วมทีมมองนักเตะธีราทรอย่างไรบ้างเหรอครับ ไม่ทราบว่า ช่วยพูดให้ฟังหน่อยจะได้ไหมครับ?
 
"เขาเป็นคนที่เป็นกันเองมากเลยครับ ทุกวันนี้ก็ยังเล่นมุกภาษาญี่ปุ่นที่ตัวเองจำได้ออกมาด้วย เขาพยายามตั้งแต่ในช่วงแรกที่ย้ายเข้ามาในทีมเพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับทีมได้เลยล่ะครับ"
 
―――ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเขาในฐานะนักเตะคนหนึ่งด้วยครับ

"ได้ยินว่าเขาเป็นหนึ่งในวีรบุรุษของนักเตะทีมชาติไทยครับ ทั้งที่เล่นอยู่ในประเทศตัวเองก็ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น แต่เขายอมลดเงินเดือนของตัวเองลงและย้ายมาเล่นที่นี่ด้วยเหตุผลว่า "ต้องการเติบโตด้วยสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ" ซึ่งพอผมได้ยินเหตุผลดังนั้นของเขาแล้วก็ทำให้ผมรู้สึกนับถือและประทับใจกับความตั้งใจจริงของเขามากเลยครับ ในทางกลับกันผมก็อยากจะเรียนรู้เรื่องความทุ่มเทที่เขามีให้กับฟุตบอลด้วยเลยครับ"
 
―――เข้าใจแล้วครับ แล้วเพื่อนร่วมทีมที่สนิทกับเขานี่มีใครบ้างเหรอครับ
 
"คิตาโมโตะ คุนิเอะ (กองหลังหมายเลข 4) หรือโอสึกิ ชูเฮ(กองหน้าหมายเลข 33) ครับ เขาฝึกซ้อมกับโอสึกิค่อนข้างบ่อย มีพูดจาเล่นมุกหยอกล้อกันด้วยแหละครับ"
 
―――แล้วทางคุณนาสึเนี่ย เคยไปกินข้าวกับเขาเป็นการส่วนตัวบ้างหรือเปล่าครับ?
 
"มีอยู่ครั้งหนึ่งครับ เขารู้จักร้านอาหารไทยดี ๆ ผมก็เลยขอให้เขาพาไป นอกจากนั้นเขายังชวนผมกินอย่างอื่นอีกด้วยนะครับ (หัวเราะ)"
 

  แม้ไดสุกิ นาสึจะไม่มีโอกาสติดทีมชาติและไปค้าแข้งในระดับโลกก็ตาม แต่การค้าแข้งกับสโมสรร่วม 6 แห่งของเขาตลอดชีวิตที่ผ่านมานั้น ก็บ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพในระดับหนึ่งของเขาเลย
 
  ในเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงการคัดเลือกในระดับนานาชาตินั้น ตัวแทนทีมชาติไทยจะต้องไปเยือนทีมฮ่องกงในวันที่ 11 ตุลาคม นอกจากนั้นยังจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีม Trinidad and Tobago ในวันที่ 14 ตุลาคมอีกด้วย มั่นใจได้เลยว่าเขาต้องเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมชาติอย่างแน่นอน
  
 
  การได้เป็นนักเตะใหม่ที่ถูกจับตามองพร้อมกับการเปิดตัวกุนซือคนใหม่ที่น่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างในสโมสรนั้น แน่นอนว่ากองหลังทีมชาติไทยอย่างเขาคงต้องมีความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างไม่ผิดแน่ ทว่าทั้งหมดทั้งปวงเหล่านั้นก็เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจสัมผัสได้กับตอนมีลาภยศและตำแหน่งเช่นนั้นเมื่ออยู่ในเมืองไทย นั่นจึงหมายถึงว่า สาเหตุที่เขาลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลมานั้นก็เพื่อต้องการหาสภาพแวดล้อมที่ทำให้ตัวเองสามารถเติบโตได้นั่นเอง
  
  หวังว่าการกลับไปเล่นกับทีมชาติของเขานั้นจะเป็นการกลับไปรีเฟรชตัวเองในความหมายที่ดี เพื่อที่เขาจะเอาของฝากนั้นกลับมาโกเบและเล่นด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมในช่วงท้ายฤดูกาลที่หลงเหลืออยู่ต่อไป
 
ข่าวโดย: ซาซากิ ยูสุเกะ

【PHOTO】งานดีเหลือเกิน！โปสเตอร์งานเลือกตั้งหนุ่มสุดหล่อประจำวิสเซลโกเบ！แล้วธีราทรล่ะ？