กระแสวิพากษ์วิจารณ์ก่อขึ้นรอบตัวของกุนซือชาวโปรตุเกส ซึ่งเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นกุนซือ Paulo Bento หลังพาทีมเกาหลีใต้แพ้ทีมชาติญี่ปุ่นของกุนซือโมริยาสุเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในทัวร์นาเมนต์ E-1 อย่างยับเยินถึง 0-3 จนชวดแชมป์รายการนี้ไป

【PHOTO】ศึกปะทะญี่ปุ่น-เกาหลีใต้แห่งชะตากรรม! รวมภาพ "กองเชียร์ทีมชาติญี่ปุ่น" ที่ช่วยแต่งแต้มสีสันในสนามโตโยต้า！

  เบนโตใช้แผน 4-1-4-1 โดยหวังเพรสซิ่งญี่ปุ่นหนักแล้วเน้นการปั้นเกมจากแดนหลังขึ้นมา ซึ่งมันเป็น "แผน B" ที่จะใช้ทดสอบในการลงสู้ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่กาตาร์กับผู้เล่นกลุ่มชุดสำรองด้วย โดยใช้ Kwon Kyung-won ของกัมบะโอซาก้าเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวพักบอลแล้วกระจายบอลไปมาเพื่อทำเกมแทน
  
  ทว่าเมื่อเริ่มเขี่ยลูกแล้วแผนการดังกล่าวก็ใช้งานไม่ได้เลย สุดท้ายแล้วทีมโสมขาวก็ไม่สามารถบุกทะลวงญี่ปุ่น มิหนำซ้ำสภาพทีมเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงตั้งแต่ต้นจนจบ จนกระทั่งพอเสียประตูต่อเนื่องในช่วงท้ายเกมก็ส่งผลให้ทีมพ่ายแพ้ญี่ปุ่น 0-3 ในผู้เล่นชุดใหญ่กลุ่มเดิมกับเมื่อมีนาคมของปีก่อน
  
  ผลงานปีนี้เกาหลีแพ้ญี่ปุ่น 0-3 ทั้งทีม U-23 และ U-16 ส่วนทีมรุ่นมหาวิทยาลัยก็พ่าย 0-5 ที่ยับเยินหนักหน่วง ไม่เพียงแต่เท่านั้นทีมหญิงของ E-1 ก็ยังแพ้ทัพนาเดชิโกะ 1-2 อย่างขมขื่น กล่าวได้ว่าเกาหลีใต้แพ้ญี่ปุ่นทุกประเภทของการแข่งขันอย่างสมบูรณ์แบบ

  สื่อเกาหลีใต้อย่าง Kyunghyang Shinmun ลงข่าวว่า "สาเหตุที่พ่ายแพ้อย่างพังพินาศมันเป็นเพราะความไม่เชื่อใจของนักเตะที่มีต่อแผนของเบนโตอย่างชัดเจน ใกล้จะถึงศึกฟุตบอลโลกแล้วยิ่งเกิดเครื่องหมายสงสัยขึ้นมามากกว่าเดิม" เป็นการลงข่าวเช่นนั้นพร้อมกับพูดถึงวิวาทะของกุนซือหลังจบศึกญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ออกมาดังนี้

  "หลังจบการแข่งขันกุนซือเบนโตออกมาพูดว่า "ในเมื่อก่อความผิดพลาดถึงขนาดนั้นก็ต้องกลายเป็นบทเรียนราคาแพง ญี่ปุ่นเล่นได้เหนือกว่าเกาหลีใต้ตลอด 90 นาที" โดยไม่พูดถึงความผิดพลาดของตัวเองเลยแม้แต่น้อย เอาแต่โทษว่าที่ผิดคือวงการฟุตบอลเกาหลีใต้ที่มาตรฐานต่ำและข้อผิดพลาดของนักเตะ แน่นอนว่าคำพูดแบบนี้ก็ต้องเรียกทัวร์มาลงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่สำคัญ คนที่เลือกตัวนักเตะมาใช้งานนี่ก็คือตัวกุนซือเองนะ จะมาโบ้ยความรับผิดชอบไม่ได้เป็นอันขาด ต่อให้จะใช้นักเตะคนไหนแต่นี่ก็คือการแข่งขันอย่างเป็นทางการที่ต้องชิงแชมป์ E-1 ศักดิ์ศรีมันไม่เหมือนกับเกมกระชับมิตรญี่ปุ่น-เกาหลีใต้เมื่อปีก่อนนะ"

  จากนั้นทางสื่อก็ระบุเพิ่มเติมว่า "ในเกมกับญี่ปุ่นนี่ไม่มีเรื่องของกลยุทธ์เลย นักเตะแต่ละคนสภาพจิตใจต่อสู้หายไปกันหมด กุนซือต้องแสดงความเป็นผู้นำแล้วกระตุ้นแรงใจของพวกเขาออกมาให้ได้" พร้อมกับระบุว่าอยากฟังความคิดเห็นกับเหตุการณ์ในคราวนี้กับประธานสมาคมฟุตบอลเกาหลีอย่าง Chung Mong-joon นอกจากนั้นก็มีนักวิเคราะห์คนหนึ่งระบุว่า "เหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 เดือนฟุตบอลโลกก็จะเปิดสนามแล้ว จะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ต่อไปงั้นเหรอ คิดว่าควรรีบจัดการอะไรอย่างเร่งด่วน" 
 

  จากนั้นทางสื่อก็ยกตัวอย่างทีมชาติญี่ปุ่นในปี 2018 ที่ทางสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นตัดสินใจอย่างเด็ดขาดออกมาอ้างอิงถึง

  "ในทัวร์นาเมนต์ E-1 เมื่อปี 2017 การแข่งขันวันสุดท้ายญี่ปุ่นก็แพ้เกาหลีใต้ 1-4 จนเกิดเป็นประเด็นโต้เถียงกันอย่างมากมายในประเทศ สุดท้ายแล้วเลยทำให้กุนซือของทีมชาติญี่ปุ่นในยุคนั้นอย่าง Vahid Halilhodžić ถูกปลดออกทันที ทว่ากุนซือที่เข้ามารับช่วงต่อคุมทีมแทนอย่างนิชิโนะ อากิระ นั้นก็ยังพาญี่ปุ่นเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซียได้สำเร็จ"

  ช่องโทรทัศน์ SBS ของเกาหลีรายงานข่าวจากทางโฆษกของสมาคมฟุตบอลในกรณีความคิดเห็นของกุนซือเบนโนหลังศึกญี่ปุ่น-เกาหลีใต้จบลงว่า "ทักษะภาษาอังกฤษของเขาไม่แข็งแรง เลยทำให้สื่อสารผิดพลาด" ซึ่งสื่อเจ้าเดิมก็ออกมาตอบโต้ว่า "แต่ถึงกระนั้นการที่มาพูดจาเหมือนโบ้ยความผิดให้คนอื่นนั้นก็ยกโทษให้ไม่ได้ มีคนอยู่หน้าประตูถึง 6 คนแต่ก็ยังเสียไป 3 ลูก ความช็อคที่เกิดขึ้นกับสนามโตโยต้าไม่มีทางที่จะหายไปโดยง่ายแน่"

  ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกที่กาตาร์นั้นทีมเกาหลีใต้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม H ที่จะเจอกับโปรตุเกส กานา อุรุกวัย ในรอบแบ่งกลุ่ม

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest

【E-１ TOURNAMENT PHOTO】JAPAN ３ー０ SOUTH KOREA｜ทีมชาติญี่ปุ่นชุด "นักเตะในประเทศ" ซัด 3 ประตูคว้าแชมป์ถ้วย E-1 ให้ญี่ปุ่นเอากลับมาครองได้อีกครั้งในรอบ 9 ปี! ล้างอายเกาหลีใต้กับความขมขื่นเมื่อ 3 ปีก่อนได้สำเร็จ

【PHOTO】วีนัสแห่งทีมหญิงเกาหลีใต้เยือนญี่ปุ่น! รวมภาพลีมีนาในชุดแข่งที่วาดลวดลายในสนาม