วันที่ 11 พฤศจิกายน การแข่งรอบคัดเลือกครั้งสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลกกาตาร์ประจำโซนเอเชียนัดที่ 5 ทีมชาติญี่ปุ่นบุกไปเยือนเวียดนามที่สนามกีฬาแห่งชาติหมีดิ่ญ ณ กรุงฮานอย

  สำหรับทีมชาติญี่ปุ่นที่จมอยู่อันดับ 4 ของกลุ่มด้วยผลงานชนะ 2 แพ้ 2 นั้น นัดนี้มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บ 3 คะแนนแต่เพียงเท่านั้น โดยก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นอดีตกุนซือที่เคยคุมทีมชาติญี่ปุ่นมาก่อนได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้ เขาไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นกุนซือฟิลิปเป้ ทรุสซิเยร์ ที่เคยนำทีมชาติญี่ปุ่นสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ปี 2002 ซึ่งทางทรุสซิเยอร์ก็มาเป็นผู้ฝึกสอนให้ทีมชาติเวียดนามรุ่น U-19 จนถึงเมื่อเดือนพฤษภาคมนี้ด้วย

  สื่อเวียดนาม Zing news ได้สัมภาษณ์ทรุสซิเยร์กับภาพของทีมชาติญี่ปุ่นเมื่อมาถึงเวียดนามที่มีข้าวของ สัมภาระและทีมงานเต็มไปหมดจนกลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้างจากผู้คนและสื่อหลายเจ้า โดยสื่อตั้งคำถามว่า "ทีมชาติญี่ปุ่นขนสัมภาระมาถึง 9 ตัน อยากให้คุณช่วยเล่าเรื่องการสนับสนุนจากเบื้องหลังสมัยที่เป็นกุนซืออยู่ให้ฟังด้วย" ซึ่งกุนซือชาวฝรั่งเศสได้กล่าวตอบดังนี้

  "ทีมงาน 100 คนกับสัมภาระ 9 ตันนี่ผมว่ามันก็เป็นตัวเลขที่เว่อร์เกินไปนะครับ น่าจะเพราะมีสื่อหรือฝ่าย PR ไปกันเยอะเลยโดนล้อมเอาไว้มากกว่านะครับ เวลาญี่ปุ่นต้องออกไปสู้ศึกต่างชาติทีไร ก็จะมีฝ่าย PR ที่คอยติดตามทีมเพื่อทำข่าวและถ่ายรูปตลอดครับ"

【PHOTO】รวมภาพแข้งซามูไรที่ถูกเรียกตัวในรอบคัดเลือกนัดสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลกโซนเอเชีย ที่จะปะทะกับเวียดนามและโอมาน!

  "จริงอยู่ที่ญี่ปุ่นมีทีมงานเทรนนิ่งและสต๊าฟฝ่ายโลจิสติกอยู่เยอะครับ แต่ถ้าเอามาเทียบกับสมัยตอนที่ผมคุมเวียดนาม U-19 อยู่นั้น จำนวนโค้ชชิ่งสต๊าฟที่คอยช่วยเหลือผมนั้น ด้านปริมาณแล้วก็แทบไม่ได้ต่างอะไรเลยครับ" แล้วอดีตกุนซือก็ระบุว่า "แต่ญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับด้านอาหารกับการแพทย์เป็นอย่างยิ่งเลย" พร้อมกับอธิบายต่อดังนี้

  "พวกเขาจะต้องคงระดับของโภชนาการกับรักษารสชาติของอาหารญี่ปุ่นเอาไว้ เลยจะมีเชฟส่วนตัว 2-3 คนอยู่ด้วย ตอนผมเป็นผู้จัดการทีมนี่รู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนมากเกินไป ผมอยากให้นักเตะต้องปรับตัวกับสถานการณ์หลายอย่างมากกว่านี้ ในสมัยนั้นหากตัดนากาตะ ฮิเดโทชิออกไป มีนักเตะญี่ปุ่นที่ได้ค้าแข้งอยู่ต่างชาติน้อยมากเลยครับ ถ้ามัวแต่คงสภาพแวดล้อมกับเงื่อนไขการใช้ชีวิตให้อยู่แต่ในกรอบล่ะก็ ไม่มีทางที่จะสามารถข้ามกำแพงระดับนานาชาติออกไปได้หรอกครับ"

  "ญี่ปุ่นจะคำนึงถึงกรณีเลวร้ายที่สุดไว้เสมอ จะพาทั้งเชฟส่วนตัว ช่างทำเล็บ ไม่ก็หมอฟันไปด้วยครับ พยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบเอาไว้" เป็นการพูดถึงการสนับสนุนเบื้องหลังที่จัดเต็มจนเกินไป จากนั้นทรุสซิเยร์ก็กล่าวปิดท้ายด้วยความเห็นจากใจจริงของเขาออกมา

  "จริงอยู่การเตรียมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับนักเตะนั้นคือเรื่องที่จำเป็น แต่ก็ควรจะต้องเจอกับความยากลำบากด้วย ถ้าไม่ทำแบบนั้นนักเตะจะไม่สามารถปรับตัวได้ เวลามีปัญหาเกิดขึ้นที่สนามเมื่อไรก็จะอลหม่านได้ครับ"

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest

【PHOTO】มิโตมะ คาโอรุกับทานากะ อาโอร่วมเสริมทัพ! เหล่าแข้งซามูไรที่ฝึกซ้อมเตรียมลุย ณ ฮานอย!

【PHOTO】「สวยไปแล้ว」「เซกซี่ไปแล้ว」คนรักและภรรยาของเหล่านักฟุตบอล